หุ้นปิดเช้าบวก 1.31 จุด อ่อนกว่าภูมิภาค วิตกงบปี 64 ล่าช้า และการชุมนุมทางการเมือง 19 ก.ย.นี้ ภายใต้สถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ สำหรับแนวโน้มการลงทุนในภาคบ่ายคาดดัชนีจะซึมตัวลงต่อเนื่อง แต่อาจยังมีแรงเก็งกำไรหุ้นเฉพาะกลุ่มที่ยัง Laggard อย่างกลุ่มโรงแรม โรงภาพยนตร์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ปรับขึ้นด้อยกว่าตลาดภูมิภาคที่ฟื้นตัวหลังลงมาแรงในสัปดาห์ก่อน โดยตลาดบ้านเราตอบรับปัจจัยลบจากความล่าช้าของงบประมาณปี 64 มองเป็นลบต่อหุ้นบริโภคในประเทศ อย่าง กลุ่มค้าปลีก และรับเหมาก่อสร้าง ทำให้เผชิญแรงขายออกมา รวมถึงยังกังวลการชุมนุมใหญ่ทางการเมืองในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ภายใต้สถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเฉพาะหุ้นรายตัวอย่าง บมจ.ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) ที่ต้องหยุดซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาตามที่สหรัฐฯ ร้องขอ ส่งผลทำให้ต้องปิดโรงกลั่นในมาเลเซียชั่วคราว ซึ่งกระทบการดำเนินธุรกิจหลักของ TASCO อย่างมีนัยสำคัญ และกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่าง บมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และ บมจ.พริมา มารีน (PRM) ซึ่งเป็นผู้ให้ TASCO เช่าเรือขนส่งด้วย
ขณะเดียวกัน ทางเทคนิคการที่ดัชนีไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,292 จุดได้ ทำให้เกิด Downside ชัดเจน และมีโอกาสที่ดัชนีจะปรับลงมาเคลื่อนไหวในบริเวณ 1,255-1,269 จุดในระยะสั้น
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,281.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.10% มูลค่าการซื้อขายราว 19,951 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายภาคบ่าย คาดว่าดัชนีจะซึมตัวลงต่อเนื่อง แต่อาจยังมีแรงเก็งกำไรหุ้นเฉพาะกลุ่มที่ยัง Laggard อย่างกลุ่มโรงแรม โรงภาพยนตร์ มองแนวรับที่ 1,269 จุด และแนวต้านที่ 1,292 จุด