กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20-31.60 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 31.36 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทเป็นสกุลเงินที่ปรับตัวอ่อนค่าลงมากที่สุดในภูมิภาคในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.12 หมื่นล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 4.0 พันล้านบาท
ทั้งนี้ มองว่านักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) วันที่ 10 ก.ย. เพื่อติดตามแนวทางการสื่อสารกับตลาดในประเด็นการดำเนินนโยบายการเงินสำหรับระยะถัดไป โดยเราคาดว่าอีซีบีจะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมอย่างชัดเจนมากขึ้นท่ามกลางภาวะที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำมากและเงินยูโรแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยในภาพรวม เงินดอลลาร์มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นชั่วคราวขณะที่ตลาดกำลังหันความสนใจไปที่ธนาคารกลางแห่งอื่นๆ นอกสหรัฐฯ นอกจากนี้ การเจรจาข้อตกลง Brexit ระหว่างสหภาพยุโรปกับสหราชอาณาจักร ทิศทางการเมืองสหรัฐฯ รวมถึงกระแสข่าวเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเช่นกัน
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนสิงหาคมลดลง 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นอัตราการติดลบที่น้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทางด้านกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าเงินเฟ้อที่ติดลบน้อยลงสะท้อนเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัว อนึ่ง แม้เราประเมินว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีแนวโน้มตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.50% ในการประชุมวันที่ 23 ก.ย. แต่ความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นทั้งจากสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงภาวะสุญญากาศและความไม่ชัดเจนของโครงสร้างการบริหารจัดการมาตรการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในสินทรัพย์สกุลเงินบาทมากขึ้น