ช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ชดเชยวันหยุดสงกรานต์ นักลงทุนควรจะได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเป็นสุข แต่กลับต้องนอนฝันร้าย ต้องเป็นทุกข์ เพราะมีแต่ข่าวลบเกิดขึ้นมากมาย นำไปสู่ความกังวลว่า ตลาดหุ้นจะทรุดหนัก
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดเมื่อวันพุธที่ 2 กันยายนที่ผ่านมาพุ่งขึ้นแรง โดยขยับขึ้นไปยืนที่ 29,100 จุด เหลืออีกเพียงประมาณ 200 จุด จะสร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ลบจุดสูงสุดเดิมก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระดับ 29,300 จุด
แต่วันพฤหัสบดี ดาวโจนส์ถล่มแรงกว่า 800 จุด และวันศุกร์ยังรูดต่ออีก 159 จุด ลงมาตั้งหลักที่ระดับ 28,000 จุด
ก่อนหยุดยาว 4 วัน ตลาดหุ้นไทยซึมลงต่อเนื่อง เพราะความกลัวผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง และยังมีผลจิตวิทยาจากวันหยุดยาว ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขาย
ดัชนีหุ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายนปิดที่ 1,311.95 จุด ซึ่งการร่วงของดาวโจนส์ สามารถฉุดให้ดัชนีหุ้น หลุดจากระดับ 1,300 จุดได้อยู่แล้ว
แต่ข่าวร้ายช่วงวันหยุดยาวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะดาวโจนส์รูดมหาราชรวม 2 วันเกือบ 1,000 จุดเท่านั้น แต่ยังมีกระแสข่าวลือการปฏิวัติแทรกซ้อนเข้ามาอีก
แม้กองทัพบกจะชี้แจง การเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นไปตามปกติ และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ข่าวลือการปฏิวัติแพร่สะพัดไปทั่ว โดยผูกโยงเข้ากับความเคลื่อนไหวของม็อบปลดแอกของกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
จะมีปฏิวัติจริงหรือไม่ ยังมีใครตอบได้ แต่นักลงทุนได้ให้น้ำหนักกับข่าวลือไปแล้ว และน่าจะเป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้น นอกเหนือจากการชุมนุมใหญ่ของม็อบปลดแอก โดยยังไม่รวมถึงความกังวลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ 2
การถล่มของดาวโจนส์กำลังทำให้เกิดความหวั่นเกรงภาวะฟองสบู่แตกของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะนักลงทุนตั้งคำถามกันมานาน ทำไมตลาดหุ้นสหรัฐฯ จึงฟื้นตัวเร็ว ทั้งที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลก จำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก และเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก
แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับแทบไม่ถูกกระทบแต่อย่างใด โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีแนสแด็ค สร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อวันพุธในระดับ 29,100 จุด ซึ่งต่ำกว่าจุดปิดสูงสุดก่อนวิกฤตโควิด-19 ไม่ถึง 1%
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พิมพ์ดอลลาร์ อัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งผลที่เห็นชัดคือ ตลาดหุ้นฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความกังวลในภาวะฟองสบู่
การดิ่งลงแรงของดาวโจนส์ช่วงวันหยุดยาว จะทำให้นักลงทุนหันมาเฝ้าจับตาตลาดหุ้นสหรัฐฯ มากขึ้น เพราะถือเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่จะชี้นำตลาดหุ้น
เดือนกันยายน หรือเดือนส่งท้ายงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ข่าวร้ายรุมกระหน่ำหนัก ทั้งปัจจัยภายนอก จากความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ที่คุมไม่อยู่ในหลายประเทศ โดยการผลิตวัคซีนยังไม่มีความแน่นอน
ขณะที่ปัจจัยภายใน มีทั้งความกังวลการแพร่ระบาดรอบ 2 และสถานการณ์การเมืองที่ร้อนระอุขึ้น ช่วงใกล้การชุมนุมใหญ่ของม็อบปลดแอกนักเรียนนักศึกษา จนนำไปสู่ข่าวลือการปฏิวัติครั้งใหม่
ดัชนีหุ้นยืนโต้กระแสข่าวร้าย ปักหลักแน่ที่ระดับ 1,300 จุดมาพักใหญ่แล้ว แต่ ข้าวร้ายที่เกิดขึ้นช่วงวันหยุดคงทำให้แนวรับขาลงระดับ 1,300 จุดต้านไม่อยู่
แต่ ดัชนีหุ้นจะทรุดลงไประดับไหนไม่อาจทำนายได้ รู้แต่ว่าเดือนกันยายนนี้ตลาดหุ้นอยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วง