ได้ยินนายประเดช กิตติอิสรานนท์ นักลงทุนรายใหญ่ ประกาศนำหุ้นบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์มาหลายปีแล้ว แต่จนบัดนี้ WEH ก็ยังไม่ได้ซื้อขายในตลาดหุ้น และไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอีกยาวนานเท่าไหร่ แผนการเข้าตลาดหุ้นจะบรรลุเป้าหมาย
เพราะ WEH มีปัญหาการบริหารงานภายในต้องสะสาง มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ต้องหาข้อยุติ และจะต้องสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนว่า
หุ้นพลังงานขนาดใหญ่ตัวนี้ เข้าตลาดหุ้นแล้ว บรรดาขาใหญ่ที่มีหุ้นต้นทุนต่ำจะไม่เทขายหุ้นทิ้งเหมือนหุ้นใหม่หลายตัว จนประชาชนผู้ลงทุนรายย่อยที่จองซื้อหุ้นในช่วงการเสนอขายครั้งแรก หรือเข้ามาซื้อหุ้นบนกระดานหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์เกิดความเสียหาย
ถ้าพิจารณาตัวเลขผลประกอบการย้อนหลังของ WEH มีคุณสมบัติที่จะเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ได้ในทันที เพราะเป็นบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ที่มีผลกำไรต่อเนื่อง โดยสิ้นสุดปี 2562 มีกำไรสุทธิสะสม 5,888 ล้านบาท และพร้อมจ่ายเงินปันผล
แต่เพราะ ปัญหาของผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนายณพ ณรงค์เดช ประธานกรรมการบริหาร WEH ซึ่งมีคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น WEH กับนายนพพร ศุภพิพัฒน์ อดีตผู้ถือหุ้นเดิม ที่มีคดีมาตรา 112 และคดีจ้างวานอุ้มเจ้าหนี้ติดตัว จนต้องหนีออกนอกประเทศ รวมทั้งยังมีคดีฟ้องร้องภายในครอบครัว “ณรงค์เดช”
หรือแม้แต่ นายประเดช ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็มีปัญหาความขัดแย้งกับนายณพ ในการบริหารและการนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ และมีข่าวว่า ร่วมมือกับผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อปลดนายณพ พ้นจากการเป็นผู้บริหาร
WEH มีทุนจดทะเบียน 1,088 ล้านบาท กลุ่มนายณพ ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 40% ของทุนจดทะเบีย น รองลงมาคือ กลุ่มนายประเดช บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนกว่า 200 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วนประมาณ 10% ของทุนจดทะเบียน
โครงสร้างผู้ถือหุ้น WEH เข้าข่ายการเป็นบริษัทมหาชนอยู่แล้ว เพราะจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยกว่า 200 ราย
คำถามถือ ผู้ถือหุ้นรายย่อยมาจากไหน เข้ามาถือหุ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มีการเสนอขายหุ้นนักลงทุนทั่วไปช่วงไหน และดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
การเข็น WEH เข้าระดมเงินในตลาดหุ้นยังห่างไกลจากความจริง เพราะถ้ายังมีปัญหาขัดแย้งและขัดแข้งขัดขากันภายใน อาจมีผลต่อการพิจารณารับหุ้นเข้าจดทะเบียน โดยนายประเดช เองก็มีประเด็นถูกจับตา เพราะนักลงทุนอาจกังวลการเทขายหุ้นทิ้งเมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์สำเร็จ
ความขัดแย้งภายในสะท้อนออกมาชัดเจน จากกรณีบุคคลที่ไม่เปิดเผยตัว หรือจะเรียกว่า “ไอ้โม่ง” คงไม่ผิด ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ WEH ระบุว่า การนัดหมายผู้ถือหุ้นประชุมภายใน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา
“ไอ้โม่ง” ที่ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ WEH ต้องเป็นคนในบริษัทแน่นอน
ส่วน นายประเดช มีประเด็นด้านภาพลักษณ์เป็นนักลงทุนรายใหญ่ เคยพานักข่าวสายตลาดหุ้นไปเที่ยวแถวเกาะสอง จังหวัดระนอง เคยเป็นอดีตผู้บริหาร DEMCO ยุคก่อตั้งและถือหุ้นอยู่ด้วย แต่ออกมาและขายหุ้นที่ถืออยู่ทิ้ง โดยปัจจุบัน DEMCO กลายเป็นหุ้นที่อยู่ในสภาพตายซาก จากที่เคยเป็นหุ้นร้อน
นอกจากนั้น ยังเคยถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER รองจากกลุ่มนายจอมทรัพย์ และเคยประกาศจะถือลงทุนระยะยาว แต่ต่อมาเทขายหุ้นออกเกือบหมด
ล่าสุด กลุ่มนายประเดช ถือหุ้นใหญ่สัดส่วนกว่า 20% ในบริษัท ณุศาสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA
หุ้นที่นายประเดช เข้าไปเกี่ยวข้องมักเป็นหุ้นร้อน รวมทั้งหุ้น WEH ซึ่งร้อนขึ้นมาอีกครั้ง หลังมีข่าวนายประเดช ร่วมมือกับผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อยึดอำนาจการบริหารบริษัทจาก นายณพ
WEH ควรเข้าตลาดหุ้นได้แล้ว แต่ปัญหาเฉพาะของผู้ถือหุ้นใหญ่ และปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นใหญ่ อาจต้องใช้เวลาอีกยาวจึงเข้าตลาดหุ้นได้
และถ้า WEH ยื่นจดทะเบียนเมื่อไหร่ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ จะต้องพิจารณากลั่นกรองหุ้นตัวนี้อย่างเข้มข้น จนมั่นใจว่า
จะไม่ปล่อย WEH เข้าตลาดหุ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนขาใหญ่ขายหุ้นทิ้ง สร้างความเสียหายให้นักลงทุนเหมือนที่เกิดขึ้นกับหุ้นหลายๆ ตัว