xs
xsm
sm
md
lg

โกลเบล็กคาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,320-1,355 จุด แนะลงทุนหุ้น Defensive Stock

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บล.โกลเบล็ก (GBS) มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลง เฝ้าจับตาปัจจัยต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แนะลงทุนหุ้นที่พึ่งพิงรายได้ในประเทศเป็นหลัก และได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 น้อย พร้อมแนะกลยุทธ์การลงทุนหุ้น Defensive Stock ชู 8 หุ้นเด่น ADVANC - INTUCH - DIF - TTW - BEM - BTS - CHG และ BCH เข้าพอร์ต

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับตัวลง ภายหลังจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนกลับมาอีกครั้ง ต่อกรณีที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งห้ามบุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัท ไบต์แดนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok และแอปฯ WeChat ของบริษัท เทนเซ็นต์ ส่วนปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบไตรมาส 2 อีกทั้งจากผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หลังจากธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ รวมทั้งการออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ฝ่ายวิจัยมองกรอบดัชนีเคลื่อนไหวที่ 1,320-1,355 จุด

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก มองว่า นักลงทุนยังคงต้องจับตาปัจจัยต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่ยังคงเป็นตัวแปรหลักเพื่อการตัดสินใจในการลงทุน อาทิ การประชุม ครม.ว่าจะมีวาระพิเศษที่เข้ากระตุ้นการลงทุนเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากที่หลายฝ่ายประเมินว่าการเมืองในประเทศหลังจากปรับ ครม.อาจจะไม่ตอบโจทย์ในเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงกรณีที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งขยายระยะเวลาในการใช้มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจช่วงโควิด-19 ภายหลังจากที่การเจรจาต่อรองระหว่างสมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันกับพรรคเดโมแครตประสบความล้มเหลว อีกทั้งบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคเอเชียจะฟื้นตัวขึ้นหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์และการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของอิรัก

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุน โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้น Defensive Stock เนื่องจากเป็นหุ้นที่พึ่งพิงรายได้ในประเทศเป็นหลัก และได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 น้อย มีอัตราการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เช่น ADVANC, INTUCH, DIF, TTW, BEM, BTS, CHG, BCH

ส่วนราคาทองคำ มองว่าราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 29,970 บาทต่อบาททองคำ โดยได้แรงหนุนจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปทดสอบดังกล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น