หุ้นไร้ปัจจัยใหม่หนุน สถานการณ์สหรัฐฯ-จีนตึงเครียดกดดัน

หุ้นไทยปิดลบ 8.82 จุด แกว่ง Sideway Down เนื่องจากไม่มีปัจจัยหนุนให้ขึ้นไปได้แรง เพราะหุ้นบิ๊กแคปไม่มีปัจจัยเข้ามาผลักดัน ระหว่างที่บริษัทจดทะเบียนยังทยอยประกาศผลประกอบการ ขณะที่สถานการณ์สหรัฐฯ-จีนตึงเครียดกดดัน สัปดาห์หน้าคาดแกว่งสร้างฐาน

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่ง Sideway Down เนื่องจากไม่มีปัจจัยหนุนให้ขึ้นไปได้แรง เพราะหุ้นบิ๊กแคปไม่มีปัจจัยเข้ามาผลักดัน ระหว่างที่บริษัทจดทะเบียนยังทยอยประกาศผลประกอบการ

ตลาดฯ จึงรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศ เช่น ความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชุดใหม่วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ และคืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ รวมไปถึงประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทั้ง 2 ฝ่ายนัดเจรจากันในวันที่ 15 ส.ค.นี้

นอกจากนี้ ตลาดฯ ยังได้รับแรงกดดันจากเรื่องที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งห้ามบุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัท ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และเจ้าของติ๊กต็อก (TikTok) และแอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอชื่อดังสัญชาติจีน รวมถึงแอปพลิเคชันวีแชท (WeChat) ของบริษัท เทนเซ็นต์ โดยให้มีผลบังคับใช้ในอีก 45 วัน

ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,324.40 จุด ลดลง 8.82 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.66% มูลค่าการซื้อขาย 44,367.02 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 510.06 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 896.51 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,036.10 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,442.66 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯ คงแกว่งสร้างฐานในช่วงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/63 โค้งสุดท้าย ซึ่งหุ้นที่ประกาศงบฯ ออกมาในช่วงหลังๆ มักจะออกงบฯ มาไม่ค่อยดี และให้ติดตาม MSCI Rebalance ประกาศเช้าวันที่ 12 ส.ค.และมีผลวันที่ 1 ก.ย.จะมีการปรับน้ำหนักหุ้นไทยอย่างไร มีหุ้นตัวไหนเข้า/ออกบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350 จุด