จับตางบ Q2/63 บจ.ใหญ่ที่เตรียมประกาศสัปดาห์นี้ (6-7 ส.ค.) โบรกฯ คาด AAV-BCP อ่วมสุดถึงขั้นขาดทุนหนัก ฟาก ADVANC กำไรลดลง ส่วน PTTGC จะกลับมามีกำไรเมื่อเทียบไตรมาสแรก ด้านกลุ่มโรงไฟฟ้ายังแกร่งทั้ง GPSC-EA
บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดการณ์บริษัทจดทะเบียนจะทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ในช่วงวันที่ 6-7 ส.ค.นี้ พบว่ามี 14 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ และอยู่ในความสนใจของนักลงทุนจะทยอยประกาศ ดังนี้
วันที่ 6 ส.ค. 63 คาดว่าจะมี บจ.ประกาศผลประกอบการ ดังนี้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC, บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS และ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT
ขณะที่วันที่ 7 ส.ค. 63 คาดว่าจะมี บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP, บริษัทคาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG, บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA, บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX
บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA, บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN
AAV บักโกรก ขาดทุนกว่า 2.6 พันล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่าในไตรมาส 2/63 จะขาดทุนสุทธิ 2,640 ล้านบาท ด้านยอดขายคาดทำได้แค่ 495 ล้านบาท ลดลง 94.8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 93.7% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ด้านอัตรากำไรขั้นต้นจะติดลบถึง 875.8% จากติดลบ 3.9% ในช่วงเดียวกันปีก่อน และติดลบ 3% ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งผลประกอบการไตรมาสนี้จะแย่ที่สุดของบริษัท
ส่งผลให้ครึ่งปีแรกคาดบริษัทขาดทุน 3,310 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 15 ล้านบาทในครึ่งปีแรกปี 62 เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้รายได้ในครึ่งปีแรกของปีนี้ต่ำมาก โดยสายการบินทุกแห่งไม่สามารถทำธุรกิจตามปกติได้เมื่อมีการปิดสนามบิน ซึ่งสถิติการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 มีจำนวนผู้โดยสารของ AAV อยู่ที่ 0.28 ล้านคน ลดลง 94.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 93.7% จากไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่จำนวนเที่ยวบินอยู่ที่ 2,977 เที่ยว ลดลง 92.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 90% จากไตรมาสก่อนหน้า ส่วน Load factor อยู่ที่ 52% ลดลง 31ppts เทียบกับปีก่อน และติดลบ 32ppts เทียบไตรมาสก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ภาพราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มเป็นลบในปีนี้ไปมากแล้ว คาดว่า AAV มีศักยภาพที่จะฟื้นได้ในครึ่งหลังปี 63 และในปี 64 จากการกลับมาเปิดเส้นทางบินเพิ่มขึ้น แนะนำถือ โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564 ที่ 2.08 บาท (อิงจาก P/BV ที่ 0.6x เท่ากับ -2.0 S.D.)
เคจีไอคาด BCP ขาดทุน 1,200 ล้านบาท หลังโรงกลั่นเจอพิษโควิด
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่าไตรมาส 2/63 จะขาดทุนสุทธิ 1,200 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 528 ล้านบาท เป็นเพราะผลการดำเนินงานจากธุรกิจโรงกลั่นแย่ลงเนื่องจาก base GRM และอัตราการกลั่นลดลงเพราะถูกกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่ผลประกอบการดีขึ้นจากไตรมาส 1/63 ที่ขาดทุนสุทธิ 4,700 ล้านบาท เพราะไม่มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ 2,400 ล้านบาทเหมือนกับไตรมาส 1/63 ซึ่งบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจาก Nido 1,400 ล้านบาท (ไม่มีมูลค่าทางบัญชีเหลือแล้ว) และผลขาดทุนจาก OKEA 974 ล้านบาท (คิดเป็นหนึ่งในสามของมูลค่าทางบัญชี)
นอกจากนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงกลั่นไตรมาส 2/63 จะดีขึ้นจากไตรมาส 1/63 เนื่องจากผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันน่าจะลดลงอย่างมาก (รวมการกลับรายการผลขาดทุน NRV แล้ว) มาอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ดีขึ้น 53% หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลง 40% เหลือ US$31/bbl ในไตรมาส 2/63 แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 28.50 บาท
ADVANC กำไรหาย 16.7%
บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด คาดกำไรสุทธิ ADVANC ไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 6,460 ล้านบาท ลดลง 16.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 4.4% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 13,216 ล้านบาท ลดลง 14% เมื่อเทียบปีก่อน หลังรับรู้ผลกระทบจากโควิด-19 เต็มไตรมาส 2/63
โดยคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปี 63 จากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้น และการแข่งขันแพกเกจที่ผ่อนคลายลงหนุน ARPU ให้ฟื้นตัว รวมถึงธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยังมีแนวโน้มการเติบโต หลัง Work From Home ทำให้เกิด New Normal ในการทำงาน แนะนำ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมายที่ 236.00 บาท โดยคาดเงินปันผลในช่วงครึ่งปีหลังที่ 3.70 บาทต่อหุ้น (ทั้งปี 2563 คาด 6.98 บาทต่อหุ้น)
PTTGC จะกลับมามีกำไร แต่ยังโตไม่เท่า Q2/62
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 1,630 ล้านบาท ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขาดทุนสุทธิ 8,700 ล้านบาท แต่ยังลดลงเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่กำไร 2,202 ล้านบาท หรือลดลง 25% จากการเพิ่มขึ้นเพราะธุรกิจอะโรเมติกส์ดีขึ้น, ขาดทุนสต๊อกน้อยลงไปมาก, มีกำไรจาก FX แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,200 ล้านบาท แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 50 บาท
CBG กำไรสดใส โต 55%
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 854 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักเทียบกับปีที่ผ่านมาจากการมุ่งเน้นทำการตลาดร่วมกับ distributor ในกัมพูชาและพม่าได้รับการตอบรับดี สำหรับยอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สินค้าใหม่เครื่องดื่มผสมวิตามิน C+Lock ที่ได้รับการตอบรับดีจากคาดยอดขาย 15 ล้านขวด
คาดกำไรสุทธิปี 63 อยู่ที่ 3,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และกำไรสุทธิปี 64 คาดอยู่ที่ 4,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 133 บาท
EA ยังแกร่งแม้เจอล็อกดาวน์
บริษัท หลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปกติในช่วงไตรมาส 2/63 คาดอยู่ที่ 1,350 ล้านบาท ลดลง 0.9% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ด้านรายได้ในไตรมาส 2/63 คาดอยู่ที่ 4,346 ล้านบาท ลดลง 8.2% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แม้จะเป็นช่วง High season ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown ทำให้คำสั่งซื้อและราคาขาย เฉลี่ยในหน่วยธุรกิจ B100 แต่เติบโต 20.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ทั้งนี้ ปี 63 คาดกำไรปกติอยู่ที่ 6,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าครบทุกโครงการเต็มปีเป็นปีแรก, หน่วยธุรกิจ Bio-PCM คาดเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/63,ทยอยส่งมอบ EV-Car ในไตรมาส 4/63 และเริ่มรับรู้รายได้โรงแบตฯ ขนาด 1 GWh คาดในช่วงไตรมาส 4/63 แนะนำ “TRADING” ราคาเหมาะสมที่ 43.00 บาท
GPSC กำไรโตเฉียด 2 พันล้านบาท รับโรงไฟฟ้าดีขึ้น
บริษัท หลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 1,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 68% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยผลการดำเนินงานจาก IPP ในระดับกลาง แต่มีผลการดำเนินงานที่ดีสำหรับ SPP โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการขาดทุนที่ลดลง คาดว่าการดำเนินงานจะอ่อนแอลงสำหรับโรงไฟฟ้า IPPs และ SPPs ในไตรมาส 3/63 เนื่องจากฤดูกาลแต่ปรับตัวดีขึ้นในโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ แนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF ที่ 78 บาท ขาดปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้น
ขึ้นค่าเช่าเรือหนุน กำไร PRM สดใส
บริษัท หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 ทำสถิติสูงสุดใหม่อยู่ที่ 345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 29% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากผลบวกการปรับขึ้นค่าเช่าเรือ FSU จำนวน 6 ลำขึ้นเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 20% จากเดิม และไตรมาส 3/63 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากผลบวกจากธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันในประเทศที่กลับมาดีขึ้นหลังคลาย lock down แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.60 บาท
อนึ่ง ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์ผลประกอบการ จากหลายบริษัทหลักทรัพย์เท่านั้น
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่คาดจะประกาศงบช่วง 6-7 ส.ค. 63
หุ้น วันประกาศงบ คาดการณ์กำไร Q2/63 ล้านบาท %YOY
ADVANC 06/08/20 6,460 -16.70%
GPSC 06/08/20 1,820 68.00%
AAV 07/08/20 -2,640 -447.18%
BCP 07/08/20 -1,200 -327.27%
CBG 07/08/20 854 55.00%
EA 07/08/20 1,350 2.50%
PRM 07/08/20 345 22.00%
PTTGC 07/08/20 1,630 -25.90%