ธนาคารทิสโก้แนะธีมลงทุนช่วงที่เหลือของปีเน้นกลุ่มเมกะเทรนด์ต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเฮลท์แคร์และเทคโนโลยี หลังยังโตต่อเนื่องแม้เผชิญวิกฤตโควิด-19
นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ หัวหน้าที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ ระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงที่มีต่อตลาดหุ้นในช่วงที่เหลือของปี นอกจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่มีความตึงเครียดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มองหุ้นยังเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำและสภาพคล่องในระบบสูง จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทำคิวอีเข้าสู่ระบบต่อเนื่อง โดยยังคงให้มุมมองธีมการลงทุนในกลุ่มเฮลท์แคร์ และกลุ่มเทคโนโลยี น่าจับตา
พร้อมแนะนำการจัดพอร์ตการลงทุนในช่วงนี้ หากรับความเสี่ยงได้สูง แนะลงทุนในหุ้นสัดส่วน 70% เงินสด 20% และทองคำ 10% โดยนายณัฐกฤติยังแนะให้ลงทุนหุ้นต่างประเทศในกลุ่มเมกะเทรนด์ ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มเฮลท์แคร์ ในสัดส่วน 50-60% โดยนักลงทุนอาจเลือกลงทุนกองทุนที่ไปลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวในต่างประเทศ ซึ่งมีหุ้นที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตดีให้เลือกลงทุนหลายตัว และยังให้ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นไทยในปัจจุบัน
ด้านนางวรสินี เศรษฐบุตร หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ สานธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ แนะนำ 4 กองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงแม้เกิดวิกฤตโควิด ได้แก่ กองทุนเปิดทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์, กองทุนเปิดทิสโก้ โกลบอล ดิจิตอล เฮลธ์ อิควิตี้, กองทุนเปิดวรรณ โกลบอล อีคอมเมิร์ซ และกองทุนเปิดวรรณ อัลติเมท โกลบอล โกว์ธ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งทั้ง 4 กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่เป็นเมกะเทรนด์ มีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี และยังมีแนวโน้มในการเติบโตได้ต่อเนื่อง 10 ปี