xs
xsm
sm
md
lg

จับตา NPL หลังหมดมาตรการพักหนี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินจากการที่ ธปท.ระบุว่าจะไม่มีการต่ออายุมาตรการพักชำระหนี้เป็นการทั่วไป หลังครบกำหนดช่วง 6 เดือนในเดือนตุลาคม 2563 นั้น นับเป็นการส่งสัญญาณให้ทุกธนาคารต้องเตรียมตัวให้พร้อมใน 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1) การเร่งตั้งสำรองฯ ไว้ล่วงหน้าเพื่อรองรับความเสี่ยงจากปัญหาคุณภาพหนี้ และ 2) การเร่งปรับโครงสร้างหนี้ ก่อนที่ลูกหนี้จะกลายเป็นหนี้ที่มีปัญหา โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มที่มีความเปราะบางทางการเงิน/มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ หรือเป็นกลุ่มที่เคยเข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้

ทั้งนี้ เศรษฐกิจที่ถูกกระทบอย่างหนักในปีนี้ และยังอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการฟื้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จะกลายเป็นสมมติฐานสำคัญที่ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งใช้ในการวางแผนธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้และต่อเนื่องในปีหน้า

นอกจากนี้ ประสบการณ์หนึ่งที่ได้จากทุกวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา ก็คือปัญหาคุณภาพหนี้มักเป็นตัวแปรตามหลังสภาวะเศรษฐกิจ (Laggard) ดังนั้น แม้สัญญาณเศรษฐกิจอาจเริ่มดีขึ้นบ้างในปีหน้า แต่จะยังคงมีโอกาสเห็น NPLs ในระบบธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 1-2 ปีนับจากนี้ และทำให้ธนาคารแต่ละแห่งต้องเตรียมการตั้งสำรองฯ ในระดับสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวย่อมมีผลกระทบต่อแนวโน้มกำไรสุทธิในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า โดยประเมินว่า Credit Cost ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 10 bps จะมีผลทำให้กำไรสุทธิลดลงประมาณ 3,300-4,000 ล้านบาท

สำหรับในระยะที่เหลือของปี 2563 นั้น คาดว่า ความเสี่ยงของสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ลากยาวจะยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งทำให้โจทย์ในการประคองทิศทางกำไรของระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ยังคงมีความท้าทายไม่น้อยไปกว่าช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับยังมีประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเร่งปรับโครงสร้างให้แก่ลูกหนี้ และการวางแนวทางให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารแต่ละแห่ง ภายหลังจากที่มาตรการพัก-เลื่อนชำระหนี้สิ้นสุดลง

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันระบบธนาคารพาณิชย์ยังคงมีฐานเงินกองทุนที่สูงกว่าเกณฑ์ที่ทางการกำหนด โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1 Ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น (BIS Ratio) ของระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศอยู่ที่ 15.68% และ 18.69% ต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ พ.ค. 2563 ตามลำดับ ซึ่งฐานเงินกองทุนที่เข้มแข็งและการเตรียมความพร้อมในการตั้งสำรองฯ ในระดับสูง สะท้อนว่าธนาคารพาณิชย์มีการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ และมีความสามารถในการดูแลให้ความช่วยเหลือลูกค้าตลอดระยะที่เหลือของปีได้


กำลังโหลดความคิดเห็น