xs
xsm
sm
md
lg

บล.กรุงศรีแนะจับตา 2 ปัจจัยเสี่ยง “ผลิตวัคซีนสำเร็จ-ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่ม” กระทบหุ้น STGT

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผลจากการระบาดของไวรัส Covid-19 ทำให้ความต้องการใช้ถุงมือยางสูงขึ้นมาก ทำให้บริษัทมีอำนาจการต่อรองสูงขึ้นและปรับเพิ่มราคาขาย 5% mom นับจากเมษายนจนถึงธันวาคม อย่างไรก็ตาม เราเห็นปัจจัยเสี่ยงสองประเด็น ได้แก่ (1) ความต้องการใช้ถุงมือยางนั้นมีโอกาสลดลงหลังจากการค้นพบวัคซีนที่มีประสิทธิผล และ (2) บริษัทมีความเสี่ยงหากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะถ้าราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เราปรับประมาณการกำไรของเราสำหรับปี 2020F และ 2021F ราว 16% และ 23% ตามลำดับ เราปรับราคาเป้าหมายของเราเป็น 73.50 บาทต่อหุ้น (จาก 45.50 บาทต่อหุ้น) พร้อมคำแนะนำ “ถือ” อิง 25x FY21F EPS

อำนาจการต่อรองที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่มราคาขายและอัตรากำไรขั้นต้น

จากข้อมูลของ Transparency market research มูลค่าตลาดของถุงมือยางทางการแพทย์ในช่วงปี 2018-2026 จะเติบโตราว 6.3% ต่อปี (เป็นการประมาณก่อนการระบาดของไวรัส Covid-19) ในขณะที่เราคาดว่าความต้องการใช้ถุงมือยางในปี 2020 นี้จะเติบโตมากกว่า 18% สังเกตได้จากอัตราการผลิตใหม่ที่ใช้เต็ม 100% ทันทีที่เริ่มดำเนินงานในกุมภาพันธ์ จากความต้องการที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทมีอำนาจการต่อรองสูงขึ้นในการเพิ่มราคาขาย 5% mom ตั้งแต่เมษายนจนถึงธันวาคม

แต่ยังมีความเสี่ยง 2 ประเด็นที่น่ากังวล


เรามองว่าบริษัทมีความเสี่ยงใน 2 ประเด็น ได้แก่ (1) ความต้องการถุงมือยางมีโอกาสที่จะลดลงหลังการค้นพบวัคซีน Covid-19 ที่มีประสิทธิผล และ (2) ราคาขายเฉลี่ยซึ่งเพิ่มขึ้นราว 15% qoq นั้นได้ทำสัญญาล่วงหน้าไว้จนถึง 4Q20 โดย STGT นั้นสามารถขายถุงมือล่วงหน้าได้ 12 เดือน แต่บริษัทสามารถจัดซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าได้เพียง 1-2 เดือน ดังนั้นบริษัทจึงมีความเสี่ยงหากต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะถ้าราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต

ปรับราคาเป้าหมายเป็น 73.50 บาท (จากเดิม 45.50 บาท) แนะนำ “ถือ” เนื่องจาก Upside จำกัดและความเสี่ยงที่มีต่อผลประกอบการ

เราปรับประมาณการกำไรสำหรับปี 2020F และ 2021F ราว 16% และ 23% ตามลำดับ โดยปรับสมมติฐานราคาขายเฉลี่ยในปี 2020F และ 2021F เพิ่มสู่ระดับ 800 บาทต่อ 1,000 ชิ้น และ 850 บาทต่อ 1,000 ชิ้นจากเดิม 750 บาท และ 800 บาท ช่วยให้กำไรขั้นต้นของปี 2020F และ 2021F จะเพิ่มขึ้นสู่ 24% และ 25% จากเดิม 22.5% ด้วย Upside ที่จำกัดและความเสี่ยงจากความต้องการที่มีโอกาสลดลงหากมีการค้นพบวัคซีน Covid-19 ที่มีประสิทธิผลในปีหน้า เราจึงแนะนำ “ถือ” กำหนดราคาเป้าหมาย 73.50 บาท อิง 25x FY21F EPS


กำลังโหลดความคิดเห็น