หุ้นบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ราคาไหลลง 1.98% มาอยู่ที่ 1.98 บาท ลดลง 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 63.86 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.22 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.96 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.96 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯ ว่า ผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงความกังวลต่อฐานะการเงินของ บริษัท Air Asia Group ในมาเลเซีย (บริษัทแม่ของ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV)) วานนี้ราคา -17% เป็นจิตวิทยาลบต่อ AAV
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า AAV มีปัจจัยลบจากผู้สอบบัญชี Ernst & Young (EY) ให้ความเห็นว่า แนวโน้มธุรกิจยังมีความเสี่ยง เพราะโรคโควิด-19 อาจทำให้หุ้นมี Sentiment เป็นลบในระยะนี้ แต่ฝ่ายวิจัยคาดว่ายังจะรอดได้
สำหรับ บล.เอเซีย พลัสระบุมุมมองระมัดระวังต่อ AAV หลังจากวานนี้ราคาหุ้น Air Asia Berhad ผู้ถือหุ้นร่วมกับ AAV ในสายการบินไทย แอร์เอเชีย (AAV ถือหุ้น 55% และ Air Asia Berhad ถือหุ้น 45%) ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยราว 10% เหตุหลักมาจากผู้ตรวจสอบบัญชี (Y) ระบุในรายงานผู้สอบบัญชีในส่วน "เหตุการณ์ที่เน้น" โดยตั้งข้อสังเกตถึงผลประกอบการและฐานะการเงิน และเหตุการณ์โควิด-19 ที่อาจกระทบอย่างมีนัย โดยสรุปมี 2 ส่วน คือ
1) มูลค่าหนี้สินหมุนเวียนสิ้นปี 62 ที่สูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนราว 430 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังไม่รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาโควิด-19 ในปี 63 ซึ่งคาดว่าปัญหาดังกล่าวยังน่าจะบริหารจัดการได้ดังเช่นหลายสายการบินที่มีการใช้นโยบายรักษาสภาพคล่อง เช่น การขอยืดจ่ายหนี้สินและลดค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์ท่องเที่ยวยังเริ่มฟื้นตัวเป็นลำดับ
2) อีกส่วนที่ EY ตั้งข้อสังเกต คือ ผลขาดทุนในปี 62 ที่ 283 ล้านริงกิต โดยยังไม่รวมถึงผลกระทบโควิด-19 ซึ่งจากการตรวจสอบงบการเงินของฝ่ายวิจัยเพิ่มเติมเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องบริหารจัดการ คือ ฐานทุนที่สิ้นปี 62 คงเหลือ 2.9 พันล้านริงกิต อาจไม่เพียงพอรองรับผลขาดทุนช่วงล็อกดาวน์ในช่วงครึ่งปีแรก (H1/63)
ประเด็นข้างต้น แม้ EY ระบุในงบการเงินงวดไตรมาส 1/63 ของ AAV เช่นกัน แต่ในส่วนของ AAV ฝ่ายวิจัยกังวลน้อยกว่า Air Asia Berhad โดยเฉพาะในเรื่องฐานทุน AAV ยังมีเหลือราว 2.2 หมื่นล้านบาท คาดว่ายังพอรองรับขาดทุนช่วงวิกฤตได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาในส่วน Air Asia Berhad น่าจะสะท้อนภาพรวมความมั่นคงกลุ่มที่ลดลง และยังต้องติดตามแนวทางการบริหารปัญหาต่างๆ อีกระยะ โดยรวมเชื่อว่าเป็นลบและอาจเป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อ AAV เนื่องจากการที่บริษัทลูกแห่งเดียว คือ สายการบินไทย แอร์เอเชีย ซึ่งปัจจุบันใช้ประโยชน์จากการที่อยู่ในเครือของ Air Asia Berhad โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรต่างๆ ร่วมกันเพื่อบริหารต้นทุน ซึ่งเป็นจุดเด่นหลักที่ใช้ในการแข่งขันในปัจจุบัน
ประกอบกับราคาหุ้นที่ตอบรับความคาดหวังเชิงบวกต่อโอกาสฟื้นตัวระยะถัดไปจนเกินมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว ยังคงแนะนำ Switch