“อินเตอร์ไฮด์” เล็งดันบริษัทลูกเข้าตลาด

อินเตอร์ไฮด์เผยผลิตภัณฑ์โปรตีนแปรรูป “GROW PLUS” ของบริษัทลูก "อินเตอร์ กรีน" กระแสตอบรับดี พร้อมบุกขยายฐานลูกค้าตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น เดินหน้าเจรจาพันธมิตรญี่ปุ่นช่วยเพิ่มช่องทางกระจายสินค้าและขยายฐานให้เข้าถึงผู้บริโภคในยุค New Normal มากขึ้น ผู้บริหารตั้งเป้าหมาย 3-5 ปีเตรียมนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย

นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ GROW PLUS ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปโปรตีนจากเศษหนัง เพื่อใช้งานในครัวเรือน ในรูปแบบอะมิโน โปรตีนชนิดสเปรย์ ภายใต้การบริหารงานของบริษัท อินเตอร์กรีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจผลิตโปรตีนจากเศษหนังเพื่ออุตสาหกรรมและการเกษตร มีแนวโน้มที่ดี และได้รับการตอบรับอย่างน่าสนใจ ทำให้บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าประเภท ตัวแทนจำหน่าย จากเดิมที่ผ่านทางออนไลน์ ทั้งลาซาด้า (Lazada) และช้อปปี้ (Shopee) เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า และช่วยสนับสนุนรายได้ให้เติบโตได้ต่อเนื่อง

“การที่บริษัทอินเตอร์ กรีน ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ IHL ได้นำผลิตภัณฑ์โปรตีน GROW PLUS มาจำหน่าย เพื่อใช้ในการบำรุงดิน พืช ผักต่างๆ ปัจจุบันมีลูกค้าใหม่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายให้ 4 ราย ประกอบด้วย Green Shop Café, Normal Shop, Get well Zone และ Organic Pavillion ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้า และสร้างรายได้เข้ามาในอนาคต พร้อมกันนี้ ได้ตั้งเป้าหมายในอีก 3-5 ปีจะนำบริษัท อินเตอร์ กรีน จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความสามารถในการทำกำไรระดับสูง" นายองอาจกล่าว

นายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป IHL กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่นในการทดลองสินค้า GROW PLUS ภายหลังที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้ลูกค้าในต่างประเทศเริ่มกลับมาเปิดกิจการได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสในการเพิ่มลูกค้ารายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขาย GROW PLUS อยู่ที่ประมาณ 10,000 ขวด

“ธุรกิจผลิตโปรตีนจากเศษหนังยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นอีกมาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่เน้นด้านเกษตรกรรม และปัจจุบันผู้บริโภคเลือกที่จะใช้สินค้าที่ปลอดภัย สะดวก ใช้ง่าย เหมาะกับยุค New Normal ซึ่งมีการปรับตัวกันมากขึ้น รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” นายวศินกล่าว