บล.โกลเบล็กประเมินสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวในลักษณะ Sideway ให้กรอบดัชนี 1,365-1,400 จุด พร้อมประเมินโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้กลับมาครึกครื้น แนะ 6 หุ้นอานิสงส์เตรียมได้ประโยชน์จากแพกเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” ERW-CENTEL-AOT- AAV-BA-ASAP
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวถึงตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ว่า มีโอกาสปรับตัวขึ้นในลักษณะ Sideway Up โดยให้กรอบดัชนีเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,365-1,400 จุด หลังนักลงทุนเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศจีน ขณะเดียวกันหลายประเทศก็เริ่มกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทำให้ภาพรวมของดัชนีเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว เช่น ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งในเดือน มิ.ย. ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนในเดือน มิ.ย.พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 53 และยังมีการคาดหวังว่าทางการจีนจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในเร็วๆ นี้
ขณะที่ปัจจัยเชิงบวก โดยเฉพาะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อย่างโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี คาดว่าสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงสภาพคล่องเศรษฐกิจให้หมุนเวียน และกลับมาสะพัดในประเทศได้ดีขึ้น ดังนั้น หากพิจารณาด้านการลงทุนเพื่อให้สอดรับนโยบายในข้างต้น ทางฝ่ายวิจัยมองว่าหุ้น ERW-CENTEL-AOT- AAV-BA-ASAP จะเป็นหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากภาคกระตุ้นการท่องเที่ยว พร้อมกันนี้ ยังแนะนำหุ้นเด่นที่ทาง IAA Consensus แนะนำตรงกัน ได้แก่ ADVANC, CK, CPALL, CPF และ INTUCH
สำหรับราคาทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินสัปดาห์นี้คาดว่า ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของกองทุน SPDR และความกังวลการแพร่ระบาดรอบ 2 ของโควิด-19 สำหรับผู้ที่มีสถานะให้ถือสถานะที่มีเพื่อรันเทรนด์ ส่วนผู้ที่รอซื้อเน้นซื้อจังหวะย่อตัว เราคาดกรอบราคาทองคำที่ 1,755-1,800 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือเทียบเท่าทองคำไทย 25,820-26,540 บาทต่อบาททองคำ