โบรกฯ ประเมินทิศทางการลงทุนมองเงินบาทอ่อนค่า สอดคล้องต่อทิศทางของสกุลเงินเอเชียบางส่วน หลังความเสี่ยงที่ COVID-19 จะระบาดซ้ำในสหรัฐฯ ส่วนดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (6-10 ก.ค.) มีแนวรับที่ 1,385 และ 1,400 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,360 และ 1,340 จุด แนะจับตามาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจ สถานการณ์โควิด-19 รวมถึงประเด็นขัดแย้งเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง
จากสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ที่เงินบาทกลับมาอ่อนค่ากว่าแนว 31 บาทต่อดอลลาร์ โดยการอ่อนค่าของเงินบาทในสัปดาห์นี้ สอดคล้องต่อทิศทางของสกุลเงินเอเชียบางส่วน ประกอบกับเงินบาทเริ่มทยอยอ่อนค่าลง หลัง ธปท. ส่งสัญญาณว่า การแข็งค่าของเงินบาทเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีมาตรการเข้ามาดูแล ขณะที่เงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อคืนของนักลงทุน ประกอบกับความเสี่ยงที่ COVID-19 จะระบาดซ้ำในสหรัฐฯ และสัญญาณตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนในประเด็นฮ่องกง ช่วยหนุนแรงซื้อเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยในช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันในวันศุกร์ (3 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.13 เทียบกับระดับ 30.92 บาทต่อดอลลาร์ในวันศุกร์ก่อนหน้า (26 มิ.ย.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (6-10 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.80-31.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ตลอดจนปมขัดแย้งในประเด็นฮ่องกงระหว่างจีน และนานาประเทศ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน มิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ของจีน และรายงานนโยบายการเงินซึ่งจะมีการเปิดเผยมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยของ ธปท. ด้วยเช่นกัน
ด้านความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยที่มีการปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,372.27 จุด เพิ่มขึ้น 3.15% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 63,299.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.53% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ขยับขึ้น 2.39% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 303.04 จุด
อย่างไรก็ตาม หุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นในเวลาต่อมา โดยมีแรงหนุนจากการปลดล็อกเศรษฐกิจและการกระตุ้นภาคการ ท่องเที่ยวในประเทศ ข้อมูลเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีขึ้นในเดือน มิ.ย. รวมถึงรายงานข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนรักษาโควิด-19
อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงบวกลงในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกยังระบาดหนัก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (6-10 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,385 และ 1,400 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,360 และ 1,340 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ มาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม สถานการณ์โควิด-19 รวมถึงประเด็นขัดแย้งเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน มิ.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. ของยูโรโซน รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของจีน