ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทกสิกร บิสซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG บริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงิน เปิดตัว “ขุนทอง” โซเชียล แชทบอท (Social Chatbot) บนแพลตฟอร์ม LINE ด้วยคอนเซ็ปต์ “ขุนทองเหรัญญิกพันธุ์ใหม่ เก็บเก่ง” ยืนหนึ่ง จัดการเก่งเรื่องเงินๆ ทองๆ ของกรุ๊ปเพื่อนใน LINE เป็นการส่งเสริมสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ลดการใช้เงินสด ตอบโจทย์ความปกติใหม่ (New Normal) แบบไร้สัมผัส (Contactless) เริ่มใช้งานง่ายๆ เพียง add @KhunThong ไว้ใน LINE แล้วเชิญขุนทองเข้าในกรุ๊ปเพื่อน ช่วยจบปัญหาเรื่องการคิดเงิน หารบิล เก็บเก่ง ต้อง “ขุนทอง” แถมยังสามารถจ่ายเงินได้ง่ายๆ ผ่าน K PLUS และสามารถยืนยันการจ่ายโดยอ่าน e-Slip ที่มีคิวอาร์โค้ดจากโมบาย แบงกิ้งของธนาคารชั้นนำทั่วประเทศ ตั้งเป้าหมายมีผู้ใช้งานมากกว่า 600,000 คน ภายในสิ้นปีนี้
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิสซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า ขุนทอง เป็นเทคโนโลยีที่ธนาคารกสิกรไทย และ KBTG ร่วมกันพัฒนาขึ้น โดยเป็น “โซเชียล แชทบอท” (Social Chatbot) ใช้งานใน LINE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแชตที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 45 ล้านคนในปัจจุบัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบรวมกลุ่มตั้งกรุ๊ป LINE เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น กินข้าว เก็บเงินเที่ยว เป็นต้น โดยมีแนวคิดการพัฒนา “ขุนทอง” ใน 3 ด้าน คือ 1) เป็นเหรัญญิกที่เก่งในการบริหารจัดการเรื่องเงินทองในกลุ่มเพื่อน 2) พัฒนาฟีเจอร์ใช้งานที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายในกลุ่มเพื่อน เช่น หารค่าข้าว เก็บเงินทริปเที่ยว แชร์เงินกองกลาง เป็นต้น และ 3) เป็น Cashless Payment ทำให้การจ่ายเงินง่าย สะดวกและรวดเร็ว ลดการจับต้องเงินสด ไม่ต้องสลับแอป และสามารถจ่ายผ่านพร้อมเพย์ (PromptPay) พร้อมทั้งสามารถยืนยันการจ่ายโดยอ่าน e-slip ที่มีคิวอาร์โค้ดจากโมบาย แบงกิ้งของธนาคารชั้นนำอื่นๆ ได้
โดยขุนทอง “เหรัญญิกพันธุ์ใหม่ เก็บเก่ง” มีฟังก์ชันทำงานบน LINE แค่กด @KhunThong ขุนทองจะเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่พูดคุยและช่วยจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ในกลุ่มเพื่อน เก็บถูก เก็บครบ เก็บเก่ง และจบเร็ว ไม่ว่าจะเป็นหารบิลแบบแฟร์ๆ เรียกเก็บเงินได้ง่ายเพียงพิมพ์ ขุนทอง และอัปรูปใบเสร็จเข้ากลุ่มแชต ให้แต่ละคนคลิกว่า กินอะไรไปบ้าง หารบิลกันแบบแฟร์ๆ กินมากกินน้อยจ่ายตามจริง หรือจะหารเท่าๆ กันก็แล้วแต่ตกลงกัน ขุนทองจัดให้ได้ทั้งนั้น หรือเก็บเก่ง ปิดดีลบิลครบยกแก๊ง ใครยังไม่จ่าย จ่ายไม่ครบ ขุนทองจะเกาะติดแจ้งจนกว่าจะจ่ายกันครบ และจ่ายง่าย อยากจ่ายวิธีไหน เลือกเลย เลือกวิธีจ่ายบิลได้ถึง 4 วิธี ตามความสะดวก คือ
"เมื่อผูกบัญชี K PLUS กับขุนทอง ข้อดี ก็คือกดจ่ายเงินได้เลย ไม่ต้องสลับหน้าจอแอปพลิเคชัน รวมถึงจ่ายด้วย K PLUS ขุนทองจะพาไปยังหน้าจอ K PLUS พร้อมใส่เลขบัญชีและจำนวนเงินให้ ผู้จ่ายแค่ตรวจสอบความถูกต้องและกดยืนยันการจ่าย หรือถ้าจะจ่ายด้วยโมบายแบงกิ้งอื่น และส่ง e-Slip ที่มีคิวอาร์โค้ดเข้ากลุ่มแชต ซึ่งขุนทองจะตรวจสอบความถูกต้องรายละเอียดการโอนเงิน ทั้งบัญชีผู้รับเงินและจำนวนเงินจากคิวอาร์โค้ด และจ่ายด้วยเงินสด ขุนทองจะบันทึกการจ่ายให้เมื่อเจ้าของบิลกดยืนยันว่าได้รับเงินแล้ว"
ทั้งนี้ ขุนทองจะโต้ตอบเฉพาะประโยคที่มีคำสั่งเรียกเก็บเงิน เช่น “เก็บเงิน” หรือ “ขุนทอง” เท่านั้น มาตรฐานความปลอดภัยของขุนทองเป็นมาตรฐานสูงสุดเช่นเดียวกับธนาคาร และธนาคารไม่มีนโยบายในการเก็บข้อมูลสนทนาในกลุ่มที่ใช้งานขุนทอง การทำงานทั้งหมดของขุนทองอยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวภายในแอปพลิเคชัน LINE ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ "ขุนทอง" เตรียมออกฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติมอีก 3 ฟีเจอร์ในการเก็บเงินเพื่อตอบโจทย์ความปกติใหม่ (New Normal) ที่คนเริ่มวางแผนเดินทางท่องเที่ยวกัน และใช้เวลามากขึ้นกับสตรีมมิ่งออนไลน์ต่างๆ ได้แก่ เก็บรายเดือน (Scheduled Bill) บิลค่าใช้จ่ายประจำเดือนที่ต้องเอามาหารกัน เช่น สตรีมมิ่งออนไลน์ Netflix ที่แชร์ดูและแชร์จ่ายกันได้ ขุนทองจะแจ้งเตือนและตามเก็บเงินจนครบ จ่ายบิลได้ตรงตามเวลา เก็บหลายบิล (Multiple Bills) เก็บค่าทริป หลายคน หลายบิล ทริปยาว ทริปสั้น ไม่ต้องยุ่งยากวุ่นวายเพราะขุนทองพร้อมเสมอที่จะช่วยจัดการบรรดาบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทริป ขุนทองสามารถช่วยหารบิลทั้งหมดและเก็บเงินได้ในทีเดียว และเก็บเงินกลุ่ม (Social Wallet) อยากจะเก็บเงินกลุ่มเอาไว้เป็นกองกลางเพื่อไปใช้กินเที่ยว ขุนทองยินดีช่วยตามเก็บเงินให้ได้ครบทุกคน ได้เงินครบตามจำนวนที่ต้องการ ไม่ต้องมีใครออกไปก่อน
และพิเศษ รับ e-Voucher Shopee มูลค่า 50 บาท แค่ใช้ขุนทองช่วยเคลียร์บิลในกรุ๊ปขั้นต่ำ 150 บาท รวมสมาชิกในบิล 3 คนขึ้นไป และจ่ายเงินครบผ่านวิธีผูกบัญชีกับขุนทอง K PLUS หรือส่ง e-Slip เข้ากลุ่ม ตั้งแต่ 15 มิ.ย.-16 ส.ค.63 สิทธิมีจำนวนจำกัด
