xs
xsm
sm
md
lg

'โอเชี่ยนฯ' ชิงกำลังซื้ออสังหาฯ ในขอนแก่น เผย 'พัทยา-หัวหิน' คึกคักรับปลดล็อกดาวน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์
"โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้" รับเรียลดีมานด์ที่อยู่อาศัยในเมืองเศรษฐกิจ เดินหน้ารุกอสังหาฯ ขอนแก่น เปิดโปรเจกต์ 2 วางเป้ายอดขายช่วงพรีเซลให้ได้ 50% ก่อนลุยก่อสร้างรอจังหวะปลายปี ลงทุนพัฒนาโครงการ "โอเชี่ยน วิลล่า ภูเก็ต" จับตลาดราคา 4-6 ล้านบาท เผยพัทยา-หัวหิน ได้รับอานิสงส์คลายล็อกดาวน์ การท่องเที่ยวคึกคัก ใกล้เมือง เดินทางสะดวก

นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนของบริษัทในปี 2563 ว่า ยังคงเดินหน้าในการพัฒนาโครงการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือเรียลดีมานด์ ซึ่งในบางพื้นที่ พบว่า ยังคงมีโอกาสทางธุรกิจให้เห็น แม้จะอยู่ในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม ซึ่งแต่ละโครงการเพื่อขายของบริษัทโอเชี่ยนฯ จะอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดบนทำเลศักยภาพในแต่ละภูมิภาค เช่่น ในเมืองพัทยา ภูเก็ต สุพรรณบุรี และจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น

ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่น บริษัทได้มาบุกเบิกและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพของการเป็นศูนย์กลางเมืองเศรษฐกิจอีสาน ทั้งการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (เมดิคัลฮับ) ของภาคอีสาน และการเป็นศูนย์กลางการศึกษาในอาเซียน ทำให้เป็นเมืองน่าอยู่ แม้ปัจจุบันเกิดสถานการณ์โควิด-19 แต่เศรษฐกิจจังหวัดขอนแก่นยังแข็งแรง เนื่องจากไม่ได้ผูกโยงกับภาคการท่องเที่ยวมากนัก แต่ขึ้นอยู่กับตลาดการประชุมสัมมนา และเมื่อเปิดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย นักศึกษาจะกลับเข้ามาตามปกติ

โดยข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุภาพรวมโครงการที่อยู่ในจังหวัดขอนแก่น ณ ครึ่งหลังของปี 62 มีคอนโดฯเปิดขาย 11 โครงการ รวม 2,140 หน่วย และเหลือขายอยู่ประมาณ 615 หน่วย ขณะที่ในไตรมาสแรกของปี 63 ไม่มีการเปิดโครงการใหม่ ส่งผลให้ซัปพลายน่าจะปรับลดลงเหลือประมาณ 200-300 หน่วย หรือประมาณ 10% ในตลาด ซึ่งทำเลที่ขายดี 5 อันดับแรก ได้แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รองลงมาคือ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น ทำเลบึงแก่น ทำเลบึงหนองโคตร และทำเลกสิกร-ทุ่งสร้าง ระดับราคาขายดี คือ 1-1.5 ล้านบาท และรองมาอยู่ที่ 1.5-2.5 ล้านบาท

ในด้านตลาดปล่อยเช่าคอนโดฯ พบว่า ห้องแบบสตูดิโอ 22-30 ตร.ม. จะปล่อยเช่าได้ประมาณ 7,000-8,000 บาทต่อเดือน แบบ 1 ห้องนอน 31-35 ตร.ม.ปล่อยเช่าได้ประมาณ 9,000-12,000 บาทต่อเดือน อัตราผลตอบแทน (ยิลด์) 7%



ล่าสุด จากเรียลดีมานด์ที่ยังคงมีอยู่ บริษัทได้เตรียมเปิดตัวโครงการที่ 2 ภายใต้ชื่อ "โอเชี่ยน แกรนด์ เรสซิเดนซ์ มิตรภาพ-ขอนแก่น" มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท บนเนื้อกว่า 1 ไร่ จำนวนห้องพักอาศัย 236 ยูนิต และรีเทลสเปซ 1 ยูนิต ขนาดห้องชุดเริ่มตั้งแต่ 22.50-35 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นเพียง 1.19 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะมีขนาด 1 ห้องนอน (Type A) ขนาด 25.25 ตร.ม. มีประมาณ 81 ยูนิต คิดเป็น 34% ของยูนิตรวม โดยวางเป้ายอดขายช่วงพรีเซลในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 20-21 มิถุนายนนี้ ไว้ระดับ 50% ของทั้งโครงการ ก่อนจะเริ่มก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จและโอนให้ผู้ซื้อได้ภายในปี 2565

"เศรษฐกิจในจังหวัดขอนแก่นยังเติบโต ราคาที่ดินยังคงปรับขึ้น บริเวณโครงการไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าเมื่อได้ข้อสรุปและเริ่มก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ารางเบาขอนแก่น ราคาที่ดินปรับขึ้นไม่ต่ำกว่า 20-30 เปอร์เซ็นต์ โดยบริษัทแม่ ไทยสมุทรประกันชีวิต ยังมีที่ดินบริเวณโดยรอบประมาณ 30 ไร่"

สำหรับการลงทุนในจังหวัดภูเก็ต ภายในสิ้นปีจะเปิดโครงการใหม่ภายใต้ชื่อ "โอเชี่ยน วิลล่า" บนเนื้อที่ 20 ไร่ รูปแบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 100 ยูนิต ราคาขายบ้านเดี่ยว 5-6 ล้านบาท และบ้านแฝด ราคาประมาณ 4-5 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ตัวโครงการอยู่ใกล้กับโครงการโอเชี่ยน ทาวน์ เมือง-รัษฎา จ.ภูเก็ต

"ยอมรับว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา การล็อกดาวน์ทำให้ตลาดหยุดหมด แต่เราคาดว่า การท่องเที่ยวจะกลับมาดีขึ้น ขณะที่อสังหาฯ ในเมืองพัทยา และหัวหิน น่าจะคึกคักเป็นพิเศษหลังโควิด-19 คลี่คลาย เนื่องจากการเดินทางสะดวกและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเรื่องแปลก โครงการคอนโดฯ โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของโอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ทคลับ พัทยา ขายได้กว่า 100 ล้านบาท และภายในโครงการยังมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ได้อีก โดยกำลังศึกษาในรูปแบบคอนโดมิเนียมแนวสูง มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท"

ปัจจุบัน โครงสร้างรายได้ของบริษัทโอเชี่ยนฯ จะแบ่งเป็นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยและรายได้จากธุรกิจอาคารสำนักงานและโรงแรม ในสัดส่วน 50:50% โดยในปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,000 ล้านบาท แต่ในปี 2563 คาดว่าสัดส่วนรายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 60% เนื่องจากโรงแรมต้องหยุดให้บริการ 2 เดือน (เม.ย.-พ.ค.) นอกจากนี้ ทั้งไทยสมุทรฯ และบริษัทโอเชี่ยนฯ ยังมีที่ดินโซนพระราม 3 และย่านราษฎร์บูรณะ จำนวน 5 ไร่ และ 19 ไร่ ตามลำดับ โดยอยู่ในขั้นตอนการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการในกรุงเทพฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น