หุ้นรับแรงหนุนราคาน้ำมันขึ้น เม็ดเงินไหลเข้า แต่เผชิญแรงขายทำกำไรถ่วง

หุ้นไทยปิดบวก 2.96 จุด รับแรงหนุนราคาน้ำมันขึ้น เม็ดเงินไหลเข้า แต่เผชิญแรงขายทำกำไรถ่วง แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดว่าการเคลื่อนไหวของตลาดน่าจะแผ่วตัวลง โดยยังต้องรอลุ้นว่าเงินทุนไหลเข้าจะมีต่อเนื่องอีกหรือไม่

นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน หลังจากช่วงเช้าดัชนีปรับขึ้นไปกว่า 19 จุด แต่จากการที่ดัชนีขึ้นมามากแล้ว และ Valuation แพง ทำให้เผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทาง ส่งผลให้ดัชนีเคลื่อนไหวสลับทั้งบวกและลบตลอดการซื้อขายช่วงบ่าย บ่งชี้ถึงว่านักลงทุนยังให้ความระมัดระวังการลงทุน แม้ Sentiment โดยรวมยังเป็นบวกหลังจากหลายประเทศทยอยคลายล็อกมาตรการคุมเข้มสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยผลดังกล่าวทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศหลักมีทิศทางที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปจนถึงเดือน ก.ค.นั้น ช่วยผลักดันให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังจับตาเงินทุนไหลเข้าว่าจะมีต่อเนื่องหรือไม่ หลังจากซื้อสุทธิต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่แล้ว แต่เริ่มเห็นการซื้อน้อยลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะเมื่อพิจารณาภาพรวมตั้งแต่ต้นปีนี้นักลงทุนต่างชาติยังอยู่ในทิศทางขายมากกว่าซื้อ และเงินทุนไหลเข้ารอบนี้เข้ามาทั้งภูมิภาคไม่ใช่ไทยเพียงประเทศเดียว

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,438.66 จุด เพิ่มขึ้น 2.96 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.21% มูลค่าการซื้อขาย 105,398.73 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,542.46 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 98.10 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 787.69 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,428.25 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) คาดว่าการเคลื่อนไหวของตลาดน่าจะแผ่วตัวลง โดยยังต้องรอลุ้นว่าเงินทุนไหลเข้าจะมีต่อเนื่องอีกหรือไม่ ส่วนการที่รัฐบาลอาจจะมีการพิจารณาแพกเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันพรุ่งนี้อาจไม่ได้ช่วยตลาดมากนัก หลังจากที่นักลงทุนส่วนใหญ่รับรู้การทยอยคลายล็อกดาวน์มาบ้างแล้วก็อาจจะทำให้ Upside ของตลาดมีไม่มากนัก

อย่างไรก็ตาม มองว่าดัชนียังมีโอกาสขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,450-1,460 จุด และให้แนวรับอยู่ที่ 1,420 จุด