สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนฉายภาพการลงทุนตลาดหุ้นไทยหลังรัฐประกาศมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์เฟส 3 ชี้ภาพรวมตลาดยังผันผวนสูง เหตุปัจจัยต่างประเทศเข้ามากระทบ ทั้งความกังวลการกลับมาระบาดรอบใหม่ และสงครามการค้ายก 2 แนะลงทุนหุ้นระยะสั้น-กลาง
นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่เศรษฐกิจทั่วโลกอยู่ภายใต้การ lockdown กว่าสองเดือน หลายๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนของการเริ่มคลายมาตรการซึ่งจะนำมาสู่สองประเด็นหลักๆ คือ 1. เศรษฐกิจหลายๆ ส่วนจะได้เริ่มกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง และ 2. ความเสี่ยงของโรคระบาดรอบ 2 ก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ขณะที่ในประเด็นด้านเศรษฐกิจหลังการผ่อนคลายมาตรการนั้น แน่นอนว่านักลงทุนจะพยายามมองหาสัญญาณว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้นได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ซึ่งในกรณีนี้เราเชื่อว่าประเทศที่ผ่อนคลายและไม่มีการระบาดซ้ำสองนั้นจะเป็นประเทศที่ทำการฟื้นตัวได้เร็วกว่าโดยเปรียบเทียบ
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวที่แท้จริงนั้นจะเกิดขึ้นต่อเมื่อทั้งโลกนั้นสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้และสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการเปิดเมืองได้ ซึ่งหมายถึงการกลับมาของ global supply-chain ในกรณีนี้ก็หมายความว่า 1. เราต้องได้วัคซีนป้องกัน หรือ 2. ยารักษาโรค
สำหรับความคืบหน้าด้านวัคซีนนั้นก็คืบหน้าไปไกลพอควร โดยทาง University’s Jenner Institute ได้ดัดแปลงไวรัสเพื่อใช้ในการสร้างวัคซีนโดยที่ไม่สร้างความเสี่ยงต่อคนซึ่งอาจนำไปสู่การผลิตวัคซีนหลายล้านชุดในช่วงเดือนกันยายนนี้ สำหรับด้านยารักษานั้น ทาง FDA ก็ได้อนุมัติให้ใช้ Gilead’s Remdesivir ในการรักษาฉุกเฉินหลังจากที่พบว่ายานี้มีความสามารถในการช่วยรักษา Covid-19 แต่ก็ยังไม่ใช่ยาที่รักษาได้ 100%
กลยุทธ์การลงทุน ย้ายไปลงทุนหุ้นระยะสั้นถึงระยะกลาง
แม้ว่าเราจะมีมุมมองเชิงบวกในระยะยาว แต่จากการที่ดัชนี Index ได้ฟื้นตัวราว 30% ในช่วง 1-2 เดือนหลังสุด และ forward-PER อยู่ที่ระดับ +2SD ของค่าเฉลี่ย 3 ปี ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างตึงและเพิ่มความเสี่ยงของการปรับฐานของตลาดจาก 3 ปัจจัย 1) ค่า PE ที่ค่อนข้างตึงแล้ว 2) ความกังวลจากการคลาย lockdown ที่จะนำมาสู่การระบาดระลอกที่ 2 และ 3) ความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รอบใหม่
"เรามองแนวรับของ SET ที่นักลงทุนควรเข้าไปเก็บสะสมหุ้นอยู่ที่ระดับ 1,150-1,120 จุด -1.0SD ของค่าเฉลี่ย PER 3 ปีย้อนหลัง ดังนั้นเราจึงแนะนำให้นักลงทุนสลับออกจากหุ้น คำแนะนำของเราก่อนหน้านี้ที่เป็นหุ้นวัฏจักร (AOT, CENTEL, CRC, IVL และ TOP) เพื่อที่จะหาหุ้นที่เป็นเชิงรับมากขึ้นในกลุ่ม ICT (DTAC และ INTUCH) สาธารณูปโภค (TTW) และหุ้นเด่นในกลุ่มพลังงานของเรา PTTGC และ TOP เราคาดว่าหุ้นเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดในช่วงเวลานี้"