ผู้สูงอายุ และคนวัยเกษียณสนใจจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ "เราไม่ทิ้งกัน" เหตุมีความมั่นคง ดอกเบี้ย 2.40% และ 3.00% น่าพอใจสูงกว่าเงินฝากที่ต่ำมาก
ในวันนี้ (14 พ.ค.) เป็นวันแรกที่กระทรวงการคลังเปิดให้จองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ รุ่น "เราไม่ทิ้งกัน" วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท เพื่อระดมทุนบรรเทาผลกระทบและแก้ไขปัญหา เยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีประชาชนทยอยมาจองซื้อ ซึ่งในช่วงแรกตั้งแต่วันที่ 14- 20 พฤษภาคม 2563 เปิดจำหน่ายให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปก่อน ส่วนวันที่ 21-27 พฤษภาคม จำหน่ายให้ประชาชนรายย่อยซื้อได้ก่อน แบบจำกัดวงเงิน 2 ล้านบาท/คน/ธนาคาร และวันที่ 28 พฤษภาคม-10 มิถุนายน จำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซื้อได้แบบไม่จำกัดวงเงิน
ประชาชนที่มาจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ "เราไม่ทิ้งกัน" ให้เหตุผลในการจองซื้อ ว่า เนื่องจากเป็นพันธบัตรที่ออกโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งมีความมั่นคงมากกว่าการลงทุนในหุ้นกู้ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายทั้ง 5 ปี และ 10 ปี จะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำมาก จนกังวลว่าดอกเบี้ยจะต่ำจนถึงระดับ 0% ซึ่งมองพันธบัตรออมทรัพย์เป็นช่องทางหนึ่งในการออมเงิน
สำหรับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ รุ่น "เราไม่ทิ้งกัน" แบ่งเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นอายุ 5 ปี และรุ่นอายุ 10 ปี โดยรุ่นอายุ 5 ปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 2.40% ต่อปี กำหนดไถ่ถอน วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ส่วนรุ่นอายุ 10 ปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3.00% ต่อปี กำหนดไถ่ถอน วันที่ 14 พฤษภาคม 2573
มีช่องทางการจำหน่ายผ่านธนาคาร 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ วงเงินซื้อขั้นต่ำสำหรับบุคคลธรรมดา กำหนดวงเงินขั้นต่ำการซื้ออยู่ที่ 1,000 บาท (1 หน่วย) ซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท/คน/ธนาคาร แต่ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่เข้าซื้อ ซึ่งพันธบัตรรุ่นนี้มีธนาคาร 4 แห่งเปิดจำหน่าย เท่ากับว่าสามารถซื้อรวมกันได้สูงสุด 8 ล้านบาท/ราย