ทีโอเอ ระบุไตรมาส 1/2563 มียอดขายสูงกว่า 4,100 ล้านบาท ลดลงเพียงเล็กน้อย แม้ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการปิดทำการชั่วคราวของร้านค้าโมเดิร์นเทรดช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 ที่ผ่านมา
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำนวัตกรรมสีทาอาคารและผลิตภัณฑ์ปกป้องพื้นผิวแบบครบวงจรในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า ในไตรมาส 1/2563 บริษัทฯ มียอดขายสูงกว่า 4,100 ล้านบาท ลดลงเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีภาวะเศรษฐกิจและการค้าที่เป็นปกติ ทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง ทำให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากราคาวัตถุดิบที่ต่ำลง ขณะที่ทั่วโลกต้องเผชิญต่อภาวะวิกฤตโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบในวงกว้าง แต่บริษัทฯ ยังคงสามารถดำเนินธุรกิจ โดยมียอดขายที่แข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นถึงพื้นฐานทางธุรกิจที่มั่นคงและการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้า 134 ล้านบาท เนื่องจากมูลค่าตลาดของเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้าลดลงตามดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ที่ปรับตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงเดือนมีนาคมจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งรายการดังกล่าวเป็นเพียงการประเมินราคาตลาดในวันที่ 31 มี.ค.2563 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน SET Index ได้มีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มูลค่าเงินลงทุนของบริษัทฯ ทยอยปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มี.ค.2563 บริษัทฯ บันทึกกำไรสุทธิตามงบการเงิน 422 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมผลขาดทุนจากการประเมินมูลค่าตลาดของเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้า บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิ 555 ล้านบาท
แม้กระทั่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยได้เผชิญต่อภาวะวิกฤตโควิด-19 บริษัทฯ จึงพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ผ่านโครงการ “TOA ไม่ทิ้งกัน” สู้ภัยโควิด-19 รวมเป็นจำนวนเงินมากกว่า 100 ล้านบาท เช่น โครงการช่วยเหลือโรงพยาบาลภาครัฐที่ได้รับผลกระทบ ในการมอบเงินและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค (Teepol) ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลบางพลี โรงพยาบาลบางบ่อ สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ ในการมอบรถพยาบาลฉุกเฉินสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโควิด-19 รวมทั้งการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งการมอบชุดตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลภาครัฐทั่วประเทศ และการสนับสนุนชุด PPE จำนวน 10,000 ชุด สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อป้องกันการสัมผัสกับเชื้อไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้จัดทำโครงการแจกถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชน ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร เช่น เขตวัฒนา เขตวังทองหลาง เขตห้วยขวาง เขตสายไหม เขตคลองเตย เขตคลองสามวา เขตบางรัก เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และโครงการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาในระยะสั้น จากการที่ไม่สามารถนำผลผลิตออกสู่ตลาดได้
รวมทั้งแนวทางช่วยเหลือประชาชนในระยะยาว ช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ผ่านโครงการอบรมหลักสูตรวิชาชีพช่างทาสีมืออาชีพกับ TOA เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนผู้ว่างงานหรือถูกเลิกจ้างจากวิกฤตโควิด-19
บริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าจะก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 พร้อมเดินหน้าเติบโตอย่างมั่นคงในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากการกลับมาดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบของร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่มีคุณภาพและครอบคลุมมากที่สุดทั่วประเทศ รวมถึงการจัดจำหน่ายในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมความพร้อมในการขยายโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย กัมพูชา และพม่า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมดำเนินกลยุทธ์การขยายธุรกิจที่มากกว่าสีทาอาคาร ด้วยการเติมเต็มนวัตกรรมแบบครบวงจรเพราะ TOA คือบริษัทสีของคนไทย ที่มุ่งมั่นสร้างการเติบโต เคียงคู่กับประชาชนคนไทย