จากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เพิ่มขึ้น และสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดรับต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงให้ความสำคัญต่อการสร้างสรรค์เมืองและพื้นที่ต่างๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี รวมถึงความปลอดภัยให้แก่ทั้งคนทำงานและผู้อยู่อาศัย
ด้วยเหตุนี้ มาตรฐาน แนวทางปฏิบัติ และแนวคิดการออกแบบใหม่ๆ จึงถูกนำมาใช้เพื่อผลักดันให้เกิดนวัตกรรมที่สอดคล้องต่อความต้องการของสาธารณชน ทัศนคติที่เปลี่ยนไปนี้แสดงให้เห็นถึงค่านิยมใหม่ [1] ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่คำนึงถึงสุขภาพที่ดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่ง The PARQ (เดอะ ปาร์ค) โครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส ประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานและร้านค้าปลีก มีมูลค่าโครงการกว่า 2 หมื่นล้านบาท ได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเทรนด์ดังกล่าวในประเทศไทย
‘เดอะ ปาร์ค’ เป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด และบริหารโดยบริษัท เฟรเซอร์สพร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนหัวมุมถนนพระรามสี่ตัดกับถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ‘เดอะ ปาร์ค’ ยังเป็นสัญลักษณ์เชิงรุกของประเทศไทยที่นำแนวคิดการออกแบบระดับสากลและมาตรฐานความยั่งยืนมาใช้ในการพัฒนาโครงการแบบมิกซ์ยูส ซึ่งจะเป็นแนวทางใหม่สำหรับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เพื่อคนเมืองในอนาคต
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานการทำงานและวิถีชีวิตแบบยั่งยืน ‘เดอะ ปาร์ค’ จึงได้รับการรับรองมาตรฐาน Pre-WELL พร้อมมุ่งหวังสู่การเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับรองมาตรฐานทั้ง WELL และ LEED Gold v4 ซึ่งเป็นการรับรองมาตรฐานล่าสุดสำหรับอาคารสีเขียว ที่ควบรวมนวัตกรรมแห่งสถาปัตยกรรมและการออกแบบอย่างยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างครบวงจร สร้างนิยามใหม่แห่งการใช้ชีวิตอย่างสมดุลของคนเมืองบนพื้นที่กว่า 130,000 ตารางเมตร (ตร.ม.)
โครงการ ‘เดอะ ปาร์ค’ ได้รังสรรค์พื้นที่มิกซ์ยูสเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยพื้นที่สำนักงานเกรดเอ แบบเปิด ที่ผู้ใช้งานสามารถจัดสรรห้องตามความต้องการ ด้วยแนวทางการออกแบบที่ยึดผู้ใช้งานเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย The PARQ Workplace มีพื้นที่สำนักงานต่อชั้นมากถึง 5,500 ตร.ม. ปราศจากเสาภายใน นับว่าเป็นขนาดพื้นที่อาคารสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมดถึง 60,000 ตร.ม. ควบคู่กับ The PARQ Life พื้นที่ร้านค้าปลีกระดับพรีเมียม 12,000 ตร.ม. ด้วยเอกลักษณ์ของพื้นที่ค้าปลีกภายในโครงการ จะทำให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนค้นพบความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต ด้วยร้านค้า ร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพที่มีมากมาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับทุกไลฟ์สไตล์
แนวคิด "Life Well Balanced" ของโครงการ ‘เดอะ ปาร์ค’ ถูกนำเสนอผ่านทุกองค์ประกอบภายในอาคาร ตั้งแต่การเปิดรับแสงธรรมชาติที่ให้ความสว่างได้ไกลถึง 7.5 เมตรใน 75% ของพื้นที่สำนักงาน ไปจนถึงตัวเลือกที่หลากหลายของฟิตเนสและบริการเพื่อสุขภาพ ทั้งยังครอบคลุมถึงแนวคิดการออกแบบและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เน้นการประหยัดพลังงาน ซึ่งพื้นที่กว่า 30% ของโครงการได้รับการจัดสรรให้เป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่กลางแจ้ง ทั้งยังเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนในอาคารและผู้มาแวะเวียนไปกับการพักผ่อนหย่อนใจผ่านความร่มรื่นของแมกไม้ในพื้นที่สีเขียวนี้อีกด้วย
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คุณภาพอากาศจึงเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่จะเป็นผลดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนส่วนใหญ่อยู่ภายในอาคารมากกว่า 90% ของเวลาทั้งหมด ระบบควบคุมคุณภาพอากาศในโครงการ “เดอะ ปาร์ค” จึงได้รับการออกแบบติดตั้งระบบหมุนเวียนอากาศสูงกว่าระดับมาตรฐานสากลถึง 30% ตลอดจนระบบกรองอากาศ 2 ชั้นเพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 และ PM10 ป้องกันภาวะผิดปกติด้านสุขภาพของผู้ที่ทำงานภายในอาคารสำนักงาน พร้อมติดตั้งหลอด UVC Emitters ที่ทำจากแร่ Quartz ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเปล่งรังสีที่มีความเข้มสูง หลอด UVC ได้นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา มีความสามารถในการกำจัดแบคทีเรีย เชื้อรา ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่างๆ ที่ติดต่อผ่านทางอากาศ รวมถึงลดอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่สะสมบนพื้นผิวต่างๆ ได้อีกด้วย
ในขณะที่กรุงเทพฯ ยังคงมีมลพิษทางอากาศที่หนาแน่น โครงการ “เดอะ ปาร์ค” จึงติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ทุกชั้นทั้งภายในและภายนอกอาคารเพื่อตรวจสอบคุณภาพอากาศ PM2.5 และ PM10 ตลอด 24 ชั่วโมง และเพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพอากาศภายในอาคารที่เหนือกว่าอาคารทั่วไป จึงได้มีการนำระบบความดันอากาศมาใช้ที่ประตูทางเข้าออกของอาคารทุกประตู เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากอากาศและฝุ่นสกปรกจากภายนอก รวมถึงช่วยรักษาคุณภาพอากาศในอาคารให้อยู่ในระดับที่มาตรฐานกําหนด พร้อมความสามารถในการกรองอากาศขั้นสูงและพัดลมที่สามารถรองรับตัวกรองคาร์บอน เพื่อมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ผู้ที่อยู่ในอาคารและผู้มาเยือน โครงการฯ ยังมีบริการน้ำสะอาดพร้อมดื่มผ่านระบบการกรองที่ทันสมัยด้วยไส้กรองน้ำได้มาตรฐานคุณภาพสูง ปราศจากสารตะกั่วอีกด้วย
โครงการ ‘เดอะ ปาร์ค’ เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเพื่อสุขภาพที่หลากหลาย ทั้งตัวเลือกสำหรับอาหารเพื่อสุขภาพ สปาและยิม รูปแบบอาคารแบบเปิดโล่งพร้อมบริเวณโถงที่โปร่งสูง ผนวกกับการเข้าถึงของแสงธรรมชาติ เสริมความน่าดึงดูดในสายตาผู้มาเยือน แต่งแต้มด้วยวิวที่งดงามจากสวนเบญจกิติ และแม่น้ำเจ้าพระยา
การเดินทางมายัง ‘เดอะ ปาร์ค’ ยังสะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และยังมีพื้นที่จอดรถซึ่งยังรวมถึงช่องจอดพิเศษสำหรับผู้ทุพพลภาพ ช่องจอดจักรยาน และสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ให้ทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย
ผู้ริเริ่มมาตรฐานระดับนานาชาติ
มาตรฐาน LEED และ WELL ได้กลายมาเป็นมาตรฐานสำคัญที่เป็นตัวชี้วัดของ “คุณภาพ” มากยิ่งขึ้น
มาตรฐานอาคาร LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) คือมาตรฐานอาคารสีเขียวที่ได้รับการรับรองโดยสภาอาคารเขียวแห่งสหรัฐอเมริกา (US Green Building Council) เป็นมาตรฐานที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์อย่างยั่งยืน เน้นการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการปล่อยมลพิษ และประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน สอดคล้องต่อบริบททางสังคมปัจจุบันที่หลายบริษัทต่างกำลังมองหาพื้นที่สำนักงานระดับคุณภาพ เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตในองค์กร และยกระดับคุณภาพชีวิตของบุคลากรให้สูงขึ้น
มาตรฐานอาคาร WELL มีเป้าหมายเพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ใช้อาคาร ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับสากล International Well Building Institute ที่ปฏิวัติแนวคิดและการออกแบบอาคารสมัยใหม่เต็มรูปแบบ ผสานแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการก่อสร้างและการออกแบบเข้ากับการวิจัยทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์
น.ส.ซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ เดอะ ปาร์ค กล่าวว่า “เดอะปาร์คเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกในประเทศไทยที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน pre-WELL และตั้งเป้าที่จะได้การรับรองมาตรฐาน LEED ด้วยเช่นกัน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ ‘เดอะ ปาร์ค’ ในการเป็นผู้นำด้านอาคารยั่งยืนของประเทศ เราพร้อมทำงานร่วมกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่แนวทางการออกแบบและก่อสร้างอาคารที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและผู้คนเป็นสำคัญ ซึ่งจะก่อให้เกิดบรรยากาศที่ส่งเสริมทั้งสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนภายใต้แนวคิด Life Well Balanced อย่างแท้จริง”
“โครงการ ‘เดอะ ปาร์ค’ แสดงถึงการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบโดยคำนึงถึงผู้คนและความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญ เป็นไปตามมาตรฐานอย่าง LEED และ WELL ซึ่งนับเป็นความท้าทายอันน่ายินดีในการสร้างมาตรฐานของประเทศไทยด้านความยั่งยืนระดับสากล พร้อมผลักดันทีมให้ไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ขึ้น อีกทั้งสร้างความแตกต่างในการพัฒนาอาคารและชุมชนต่างๆ ในประเทศไทย ที่ยังคงอนุรักษ์ทรัพยากรที่มีคุณค่า เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น” นายแอนโทนี่ อรันเดลล์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายระบบโครงสร้างพื้นฐานทั่วไป การพัฒนาที่ยั่งยืน และเมืองอัจฉริยะ โครงการเดอะ ปาร์ค (The PARQ) กล่าว
อนาคตของกรุงเทพฯ
‘เดอะ ปาร์ค’ มุ่งขับเคลื่อนการรับรองมาตรฐาน LEED และ WELL ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วมขานรับเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ สอดคล้องต่อแผนการเติบโตระยะยาวของไทย และเดินหน้าสู่วิสัยทัศน์ในการผลักดันกรุงเทพมหานครให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ‘เดอะ ปาร์ค’ วางแผนเปิดตัวและให้บริการอย่างเป็นทางการภายในปีนี้
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ :
* LEED : Leadership in Energy and Environmental Design หรือ LEED เป็นระบบการจัดเรตติ้งที่คิดขึ้นโดยสภาการก่อสร้างอาคารสีเขียวแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Green Building Council - USGBC) เพื่อประเมินผลงานด้านสิ่งแวดล้อมของอาคาร และส่งเสริมวงการให้เปลี่ยนผ่านไปสู่การออกแบบที่ยั่งยืน
* WELL : มาตรฐานอาคาร WELL เป็นมาตรฐานระดับสูงสุดที่ใช้กับอาคาร การออกแบบพื้นที่ภายในและชุมชน มุ่งเน้นให้เกิดการออกแบบส่วนประกอบเพื่อการใช้งาน สร้างให้เกิดความสมบูรณ์ และการวัดผลที่สนับสนุนและพัฒนาสุขภาพและสวัสดิภาพของมนุษย์ กำหนดมาตรฐานโดยสถาบัน International WELL Building Institute ซึ่งตั้งอยู่ที่วอชิงตัน ดี.ซี.