หุ้นปิดเช้าร่วง 18.32 จุด สวนทางตลาดภูมิภาคที่ฟื้นตัวหลังร่วงแรงจากกังวลสงครามการค้ารอบใหม่ แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดมีโอกาสที่จะรีบาวนด์ได้บ้าง
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง มองว่าเป็นการลงชดเชยในช่วงวันหยุดที่ตลาดปิดทำการไปแล้วตลาดต่างประเทศต่างปรับตัวลงกันค่อนข้างมาก จากความกังวลหลังมีข่าวประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่เพื่อตอบโต้จีนที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยวานนี้ตลาดในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงราว 2% แต่เช้านี้ก็ฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้เฉลี่ย +0.7% หลังลงไปมาก ซึ่งตลาดบ้านเราเช้านี้ปรับฐาน -1.5% ก็ถือว่าดีกว่าตลาดภูมิภาค เนื่องจากได้หุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์มาช่วยพยุงตลาดฯ ไว้ โดยกลุ่มพลังงานฟื้นตัวนำโดยหุ้น PTTEP และกลุ่มแบงก์ที่ under perform พอควร ก็ได้มีแรงซื้อเข้ามานำโดย KBANK
ขณะที่หุ้นในกลุ่มค้าปลีกก็ได้รับอานิสงส์จากเม็ดเงินเข้าระบบ ทำให้สภาพคล่องดีขึ้น และบ้านเราก็สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ดี พร้อมให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงบ่ายนี้ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก คงจะเน้นความช่วยเหลือ บมจ.การบินไทย (THAI) เป็นหลัก และให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,283.34 จุด ลดลง 18.32 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.41% มูลค่าซื้อขาย 28,618 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพลกล่าวว่า ตลาดฯ มีโอกาสที่จะรีบาวนด์ได้บ้าง โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,270-1,280 จุด ส่วนแนวต้าน 1,295-1,300 จุด