xs
xsm
sm
md
lg

“โลกหลังวิกฤต Covid-19 (ตอนที่ 2)”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โลกหลังวิกฤต Covid-19 (ตอนที่ 2) ยังมีอีกหลายมุมมองที่น่าสนใจ จึงนำมาสรุปเพิ่มเติมในบทความตอนนี้ 3 ประเด็น คือ 1.ลักษณะการอยู่อาศัยของผู้คนจาก “เมืองหลัก” ไปสู่ “เมืองรอง” 2.ลักษณะการออกแบบสถานที่ทำงานเพื่อรองรับ “Social Distancing” และ 3.ลักษณะการซื้อของในซูเปอร์มาร์เกตและร้านของชำในยุค “Social Distancing”

กฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โลกหลังวิกฤต Covid-19 ในบทความตอนที่ 1 นั้นได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงลักษณะพื้นฐานในชีวิตและสังคมของมนุษย์ที่จะเปลี่ยนแปลงไป 8 ประการ ซึ่งนอกเหนือจาก 8 ประการที่กล่าวถึงไปนั้น ยังมีอีกหลายมุมมองที่น่าสนใจจากบรรดากูรูในวิชาชีพต่างๆ ว่าพวกเขามองโลก (ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพของพวกเขา) หลังวิกฤต Covid-19 จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จึงนำมาสรุปให้เห็นประเด็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจได้ดังนี้
3.ลักษณะการซื้อของในซูเปอร์มาร์เกตและร้านขายของชำในยุค “Social Distancing”

บทความของ Katie Jackson ที่ลงใน www.today.com เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 เรื่อง “8 ways coronavirus may change how we shop at the grocery store forever.” สรุปประเด็นสำคัญของพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะซื้อสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันในยุค “Social Distancing” จะเปลี่ยนไปจากเดิมดังนี้

ลูกค้าจะมีจำนวนครั้งมาที่ร้านน้อยลง (Shoppers will make fewer trips to the store) เพราะคนยังหวาดกลัวกับการแพร่ระบาดของเชื้อ จะลดจำนวนครั้งที่มาเท่าที่จำเป็น ซึ่งต่างจากเดิมแวะมาเมื่อใดก็ได้

ลูกค้าจะซื้อของทีละมากๆ เพื่อเก็บไว้ในตู้เย็นและครัวมากกว่าเดิม (People will stock up) เมื่อมาที่ร้านในจำนวนน้อยลง คนก็จะซื้อพวกอาหารและสินค้าจำเป็นคราวละมากๆ โดยอาจจะเก็บไว้ 1-2 สัปดาห์ก่อนจะออกมาเติมอีกครั้ง

ลูกค้าจะซื้ออย่างมีเหตุผลและมีแผนการมากขึ้น (Goodbye browsing, hello planning) ที่ผ่านมาการเดินในซูเปอร์มาร์เกตที่มีของมากมายก็เป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง สามารถใช้เวลาค่อยๆ คิดได้ อาจเจอสินค้าบางอย่างที่ไม่ได้วางแผนมาก่อนว่าจะซื้อ แต่พบการส่งเสริมการตลาดที่เย้ายวนใจก็เกิดการซื้อเพิ่มได้ แต่ยุคที่ต้องรักษาระยะห่าง ลูกค้าจะเริ่มวางแผนมากขึ้น มี Checklist ที่ทำให้พุ่งตรงไปยังชั้นที่ขายของนั้นโดยตรง

ลูกค้าจะใช้บริการส่งของถึงบ้านมากขึ้น (Curbside pick up and online ordering will be big) ลูกค้าอีกเป็นจำนวนมากจะยอมปรับพฤติกรรมสั่งของชำทาง online และให้มาส่งถึงบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการออกนอกบ้าน ทำให้ซูเปอร์มาร์เกตต่างๆ หันมาพัฒนาและปรับปรุงบริการนี้

ลูกค้าต้องการใช้บริการจุดชำระเงินและนำของกลับด้วยตนเองมากขึ้น และไม่สนใจจุดทดลองสินค้า (So long to samples and self-serve stations) เพื่อลดโอกาสสัมผัสเชื้อจากจุดที่มีการให้ทดลองสินค้า หรือจุดชำระเงิน

ลูกค้าจะนิยมสินค้าที่คงความสดไว้ได้นาน (Long lasting produce will be popular) ความต้องการสินค้า เช่น ผลไม้ประเภทเก็บรักษาไว้ได้นานจะมีมากขึ้น เพราะดีต่อสุขภาพและสอดคล้องต่อเวลาที่ไม่ต้องออกมาชอปปิิ้งบ่อยๆ

ลูกค้าจะซื้อสินค้าประเภทอาหารแช่แข็งและอาหารกระป๋องมากขึ้น (Frozen foods and canned foods will be favored) ซึ่งสัมพันธ์กับระยะเวลาที่อยู่บ้านนานขึ้น ประกอบกับสินค้าเหล่านี้ค่อนข้างมีน้ำหนัก จึงต้องการซื้อในปริมาณมากๆ เพื่อเก็บไว้

ลูกค้าจะหันมานิยมไปร้านค้าขนาดเล็กมากขึ้น (Smaller stores are making comeback) ร้านค้าของชำขนาดเล็กใกล้บ้านจะกลับมาเป็นที่นิยม เพราะถูกคาดหมายว่าผู้คนจะไม่เข้าไปแออัดและรอคิวการซื้อของ การชำระเงินเหมือนร้านใหญ่

ไม่น่าเชื่อว่าไวรัสตัวเล็กๆ นี้จะสามารถบังคับและเปลี่ยนชีวิตในอนาคตของมนุษยชาติได้มากขนาดนี้ ซึ่งยังเป็นที่น่าสนใจมากว่า ยังมีมุมมองอะไรและอย่างไรอีกที่ไวรัส Covid-19 นี้จะมาเปลี่ยนแปลงชีวิต ธุรกิจ และสังคมของพวกเรา ซึ่งสามารถติดตามได้ในบทความห้องเรียนผู้ประกอบการ www.set.or.th/enterprise




กำลังโหลดความคิดเห็น