มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในไตรมาสที่ 1/2563 พลิกกลับมาขยายตัวในรอบ 5 ไตรมาส ที่ร้อยละ 0.9 YoY จากแรงหนุนของการส่งออกทองคำและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัวดี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากเป็นปัจจัยกดดันต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยรายงานมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือน มี.ค.2563 อยู่ที่ 22,405 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผิดจากที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ว่าจะหดตัว โดยแรงหนุนการส่งออกสินค้าไทยในเดือน มี.ค.2563 มาจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่
1.การส่งออกทองคำที่ขยายตัวสูงต่อเนื่อง ตามความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทวีความรุนแรงขึ้นในเดือน มี.ค.2563 หากหักการส่งออกทองคำแล้ว มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยขยายตัวร้อยละ 0.2 เทียบ YoY
2.การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทยที่กลับมาขยายตัวดีที่ร้อยละ 8.6 เทียบ YoY ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากการเป็นตลาดส่งออก Hard Disk Drive (HDD) ทดแทนจีนที่ปิดโรงงานการผลิตชั่วคราวในช่วงเดือน ก.พ.2563 อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะขยายตัวดีในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 จากการปิดโรงงานการผลิตชั่วคราวของจีนและความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นจากการ Work from home หลังหลายประเทศทั่วโลกประกาศล็อกดาวน์ ในขณะที่การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 มีแนวโน้มจะกลับมาหดตัว หลังปัจจัยชั่วคราวหมดไป
3.ปัจจัยชั่วคราวอย่างการเหลื่อมเดือนของการส่งคืนอาวุธยุทธปัจจัย รวมถึงรถถังและยานรบหุ้มเกราะที่นำเข้ามาในเดือน ก.พ.2563 เพื่อฝึกร่วมผสมทางทหารระหว่างกองทัพไทยกับสหรัฐฯ ในช่วงวันที่ 25 ก.พ.-6 มี.ค.2563
อย่างไรก็ดี จากการส่งออกสินค้าไทยที่กลับมาขยายตัวในเดือน มี.ค.2563 ช่วยหนุนภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยในช่วงไตรมาสที่ 1/2563 ให้ขยายตัวเป็นบวก ในขณะที่การนำเข้าสินค้าของไทยช่วงไตรมาสที่ 1/2563 หดตัวร้อยละ 1.9 จากการนำเข้าสินค้าทุนที่ลดลง ส่งผลให้ดุลการค้าในไตรมาสที่ 1/2563 ยังคงเกินดุลที่ 3,933.7 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีมุมมองต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 2563 ว่าจะหดตัวร้อยละ 5.6 แม้ว่าการส่งออกสินค้าอาหารคาดว่าจะยังขยายตัวได้ดีจากอานิสงส์ความต้องการในตลาดโลก แต่ปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้ความต้องการสินค้าไทยในตลาดโลกโดยรวมลดลงไปด้วย ประกอบกับห่วงโซ่การผลิตหยุดชะงักจากการประกาศล็อกดาวน์ของหลายประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ แม้ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะหดตัวร้อยละ 5.6 แต่ถ้าเทียบมูลค่าเฉลี่ยรายเดือนที่ 19,371 ล้านดอลลาร์ จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2559
