นายกสมาคมค้าทองคำเผยคนแห่ขายทองแน่นเยาวราชหลังราคาทองคำโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 7 ปี ยอมรับร้านทองกำลังลำบากมีแต่คนแห่ขายทอง ไม่มีคนซื้อ หลายร้านอาจต้องปิดกิจการเพราะขาดสภาพคล่อง
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ประธานกรรมการห้างทองจินฮั้วเฮง กล่าวว่า วันนี้มีลูกค้าจำนวนมากนำทองคำมาขายทำกำไรที่ร้านทองย่านเยาวราช เนื่องจากราคาทองคำ Gold Spot วันนี้สูงถึง 1,724.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี สาเหตุจากลงทุน และกองทุนต่างประเทศ เช่น กองทุน SPDR กลับมาซื้อทองคำเพราะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้างจากพิษโควิด-19 ซึ่งทำให้ราคาทองคำในประเทศผันผวน เปลี่ยนราคาไปแล้ว 6 ครั้ง ปรับขึ้น 300 บาท จากช่วงเช้าที่ปรับขึ้น 550 บาท ซึ่งทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปรับขึ้นมากที่สุดหากเทียบกับหุ้น ตราสารหนี้
โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นถึง 6,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่แนวโน้มราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะทำนิวไฮใหม่ และมีโอกาสลบสถิติเดิมที่เคยสูงสุดที่ 27,100 บาทต่อบาททองคำเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดทองคำยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะไม่สามารถส่งออกทองคำไปขายต่างประเทศได้จากเหตุการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ และสายการบินหยุดบิน ทำให้ผู้ประกอบการร้านขายทองคำกำลังย่ำแย่ ประสบปัญหาสภาพคล่อง หลายแห่งอาจจะต้องมีการปิดกิจการเพราะลูกค้าแห่กันมาขายทองคำจำนวนมากและใช้วิธีสลับกันปิดสาขาชั่วคราว ดังนั้น หากลูกค้ารายใหญ่นำทองคำมาขายที่ร้าน ทางร้านอาจจะต้องชะลอการจ่ายเงินไปอีก 5-7 วัน ส่วนรายย่อยทางร้านจะจ่ายเงินสดให้ทันที โดยขณะนี้ร้านทองขนาดใหญ่จะต้องมีเงินสดสำรองต่อวันไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เพื่อรองรับผู้ที่นำทองคำมาขาย
“ยอมรับว่าสถานการณ์ร้านทองตอนนี้หนักมาก อยู่วงการทองคำมานานเพิ่งเคยเจอสถานการณ์นี้ มีคนมาขายทองเป็นจำนวนมาก แต่ร้านค้าทองส่งออกทองคำไปขายในต่างประเทศไม่ได้เพราะสายการบินหยุดบิน และมีแต่คนเอาทองมาขายแต่ไม่มีคนซื้อ หากเป็นแบบนี้ต่อไปร้านค้าทองคงปิดกิจการเพราะไม่มีเงิน ไม่มีสภาพคล่อง” นายจิตติกล่าว
นายจิตติกล่าวว่า ทางร้านทองให้ความสำคัญต่อการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ลูกค้าที่นำทองคำมาขายต้องใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และต้องตรวจวัดอุณหภูมิก่อนที่จะเข้าร้าน