หุ้นปิดเช้าบวก 4.84 จุด ตลาดผันผวนจากแรงขายทำกำไรกลุ่มพลังงาน หลังผิดหวังผลประชุมโอเปกพลัส หวั่นงบฯ Q1/63 แย่ แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดคงจะไปไหนได้ไม่ไกล ระยะสั้นอาจสร้างฐานแถว 1,185-1,200 จุด ซึ่งก็ไม่ควรหลุด 1,185 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนจากแรงขายทำกำไรออกมา โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่ผลประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) ได้ลดกำลังการผลิต 10 ล้านบาร์เรล/วัน ไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับอุปสงค์ที่ลดลงมากถึง 25 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งทำให้ต้องไปคาดหวังการลดกำลังการผลิตในการประชุม G20 วันนี้ แต่ก็ยังไม่มีความแน่นอนไม่รู้ว่ากลุ่ม G20 จะร่วมลดกำลังการผลิตด้วยหรือไม่ จึงทำให้มีแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มน้ำมันออกมาก่อน
นอกจากนี้ คาดว่ากลุ่มพลังงานจะได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการงวดไตรมาส 1/63 ที่อาจจะออกมาไม่ดี เนื่องจากในไตรมาส 1/63 ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงแรง ทำให้วิตกอาจจะเกิด Stock loss จำนวนมาก โดยเฉพาะในกลุ่มโรงกลั่น และอาจกระเทือนต่อความสามารถในการจ่ายปันผลได้ ประเด็นดังกล่าวนี้สร้างแรงกดดันต่อ Sentiment การเก็งกำไร
อย่างไรก็ดี ตลาดฯ ยังมีการเก็งกำไรกันบ้างในกลุ่มการเงิน ขานรับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้พวก Non-Bank เพื่อให้ Non-Bank ไปช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ประเมินแล้วก็พบว่าได้รับผลบวกในแง่ต้นทุนที่ลดต่ำลง ซึ่งจะส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิได้ด้วย ทำให้หลายตัวในกลุ่มการเงินฟื้นตัวขึ้นได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก บรรยากาศเงียบเหงาเนื่องจากหลายตลาดปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday รวมถึงตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปวันนี้ก็จะปิดทำการด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,215.32 จุด เพิ่มขึ้น 4.84 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.40% มูลค่าซื้อขายราว 27,046 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณกล่าวว่า ตลาดฯ คงจะไปไหนได้ไม่ไกล ระยะสั้นอาจสร้างฐานแถว 1,185-1,200 จุด ซึ่งก็ไม่ควรหลุด 1,185 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,220-1,245 จุด