กองทุนเพื่อการออม หรือ SSF ประเดิมเปิดขายหน่วยลงทุนพร้อมกัน 18 กองทุน เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา และยังไม่มีรายงานว่า มีประชาชนให้ความสนใจจองซื้อขนาดไหน แต่คาดหวังกันว่า จะเป็น กองทุนที่เป็น “ตัวช่วย” ของตลาดหุ้น
SSF เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาทดแทนกองทุนหุ้นระยะสั้น หรือ LTF เพียงแต่สิทธิประโยชน์และเงื่อนไขจูงใจการลงทุนน้อยกว่า จึงอาจไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนมากนัก
กองทุน SSF 18 กองทุนที่เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 1-8 เมษายนนี้ เป็นกองทุน SSF ที่จัดตั้งภายใต้เงื่อนไขพิเศษ โดยผู้ที่ลงทุนระหว่างวันที่ 1 เมษายนถึง 30 มิถุนายนนี้ จะสามารถนำเงินลงทุนลดหย่อนภาษีได้ 200,000 บาท โดยไม่เกี่ยวกับวงเงินที่จะนำไปลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุนประเภทอื่น
หลักเกณท์กองทุน SSF จะลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์และตลาด mai ไม่น้อยกว่า 65% ของเงินลงทุนทั้งหมดในแต่ละกองทุน และต้องลงทุนเป็นเวลา 10 ปีเต็ม จึงไถ่ถอนเงินลงทุนได้
กองทุน SSF ที่กำลังเปิดขายหน่วยลงทุน หลายฝ่ายตั้งความคาดหวังว่า จะเข้ามาช่วยพยุงตลาดหุ้น เพราะจะมีเงินจากการขายหน่วยลงทุนทยอยเข้ามาซื้อหุ้น โดยประเมินกันว่า จะมีเงินไหลเข้ากองทุน SSF ประมาณ 60,000 ล้านบาท
แต่ประชาชนจะสนใจลงทุน SSF มากเพียงใด
เงื่อนไขการลงทุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน SSF ไม่จูงใจเท่ากองทุน LTF ทั้งวงเงินลดหย่อนภาษีที่น้อยกว่า และเงื่อนเวลาการลงทุนที่ยาวนานกว่า ทำให้กองทุน SSF อาจไม่เป็นที่น่าสนใจ
นอกจากนั้น การเปิดตัวกองทุน SSF ยังเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย โดยปัจจุบัน คนทำงานอยู่ที่บ้าน ตามนโยบายการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ตัวแทนขายหน่วยลงทุนไม่สามารถติดต่อกับลูกค้าได้สะดวก
ส่วนประชาชนก็อยู่ในสภาพหมดกำลังซื้อ ไม่มีเงินลงทุน และต้องพยายามสำรองเงินสด เตรียมไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ในช่วงวิกฤต “โควิด-19”
แต่ละกองทุน SSF ทั้ง 18 กองทุน อาจระดมเงินผ่านการขายหน่วยลงทุนได้เพียงไม่กี่สิบล้านบาท หรืออาจระดับร้อยล้านบาท
ทั้ง 18 กองทุน อาจระดมเงินรวมกันได้ระดับ 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่มาก และไม่น่าจะเพียงพอในการกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน
ความหวังจากกองทุน SSF ในการปลุกให้ตลาดหุ้นกลับสู่ความคึกคัก น่าจะดับวูบลง เพราะ SSF เป็นเพียงแค่กองทุนทางเลือกของนักลงทุนเท่านั้น แต่ไม่สามารถเป็นกองทุนที่มีบทบาทกระตุ้นตลาดหุ้นภายในระยะสั้นๆ
เพราะจะระดมเงินลงทุนได้น้อยมาก
และเงินของกองทุนไม่ได้ถูกนำมาลงทุนทั้งหมดในทันทีทันใด แต่จะทยอยเข้ามาลงทุน ตามการตัดสินใจของผู้จัดการกองทุน และกองทุนระดับไม่กี่ร้อยล้านบาท คงไม่สามารถพลิกฟื้นหุ้นที่ตกอยู่ในภาวะซบเซา
ใครที่ตั้งความหวังว่า เมื่อจัดตั้งกองทุน SSF แล้ว ตลาดหุ้นจะสดใสขึ้น เพราะจะมีเวินก้อนใหญ่เข้ามาลุยซื้อหุ้น ต้องปรับแนวคิดใหม่ เพราะกองทุน SSF คงไม่ช่วยให้สถานการณ์ตลาดหุ้นดีขึ้นมากนัก
สำหรับนักลงทุน ลองตั้งคำถามตัวเองว่าจะลงทุนผ่านกองทุน SSF หรือไม่ แม้จะสามารถนำเงินลงทุนลดหย่อนภาษีได้ 2 แสนบาทก็ตาม แต่จะต้องกำหุ้นไว้ถึง 10 ปีเต็ม
หุ้นดีๆ ในกระดาน ราคาถูกๆ มีให้เลือกมากมาย ถ้ามีเงินเหลือ ช้อนเก็บหุ้นในกระดานโดยตรงไม่ดีกว่าหรือ มีกำไรจะขายเมื่อไหร่ก็ได้
ทำไมต้องซื้อหุ้นผ่านกองทุน SSF