นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในสภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวนอย่างมาก ทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยได้รับผลกระทบตามไปด้วย อย่างไรก็ดี ในทางกลับกันราคาหุ้นไทยในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับในอดีต ซึ่งเหมาะแก่การเข้าลงทุนเพื่อหวังผลทำกำไรในระยะยาว ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยจึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดเค ซูเปอร์สตาร์ เพื่อการออมพิเศษ (K-SUPSTAR-SSFX) โดยมีกำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2563
นายวศินกล่าวต่อไปว่า กองทุน K SUPERSTAR SSFX มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 65% โดยเฉลี่ยตามรอบปีบัญชี โดยเน้นลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดีที่มีศักยภาพ มีกระแสเงินสดที่มั่นคง (Defensive) และสามารถเติบโตได้แม้ในสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว (Quality Growth) ผ่านกลยุทธ์การบริหารจัดการแบบ Tactical Trade ที่ผู้จัดการกองทุนจะคอยจับจังหวะซื้อขายหุ้น จึงสามารถทำกำไรได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระหว่างการถือครอง 10 ปีตามเงื่อนไขของกองทุนรวมเพื่อการออมนั้น กลยุทธ์ดังกล่าวคาดว่าจะทำให้กองทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ตามนโยบายจ่ายปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง โดยกองทุน K SUPERSTAR SSFX ได้ใช้กลยุทธ์บริหารจัดการกองทุนเหมือนกับกองทุน K-STAR-A(R) ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นที่โดดเด่น ติดอันดับ 5 ดาว จาก Morningstar ในประเภท Overall Rating (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มี.ค. 63) ซึ่งมีการจัดตั้งและผลการดำเนินงานมาแล้วกว่า 15 ปี
กองทุน K SUPERSTAR SSFX จัดได้ว่าเป็นกองทุนรวมเพื่อการออมแบบพิเศษ หรือ Super Savings Fund Extra (SSFX) ที่ทาง ก.ล.ต.ผลักดันให้มีการจัดตั้งเพื่อสอดรับกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการเพิ่มเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้นไทย อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ผู้ลงทุนได้ออมเงินในระยะยาว แถมยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี อย่างไรก็ดี กองทุนดังกล่าวมีเงื่อนไขพิเศษให้ผู้ลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนภายใน 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-30 มิ.ย. 63 ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นอีก 200,000 บาท (ไม่รวมกับวงเงินซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน SSF แบบปกติ) โดยมีระยะเวลาการถือครอง 10 ปี นับจากวันที่ซื้อหน่วยลงทุน
“บลจ.กสิกรไทยประเมินว่าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 สามารถควบคุมได้ภายในกลางปี คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จากมาตรการกระตุ้นการบริโภค และการเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ภาครัฐทยอยประกาศออกมาใช้ รวมทั้งเม็ดเงินลงทุน และการเบิกจ่ายงบประมาณจากภาครัฐที่คาดว่าจะเริ่มเห็นในเดือนเมษายนปีนี้ ประกอบกับสภาพคล่องที่มีอยู่ในระดับสูงจากการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลก ทำให้คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะสามารถปรับตัวขึ้นไปสูงกว่าระดับปัจจุบันได้ โดยระดับดัชนีปัจจุบันสะท้อน Forward PE ที่ 13.2 เท่า และ Dividend Yield ที่ประมาณ 4% อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนจากการปรับคาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้ลดลงอีก” นายวศินกล่าว
นายวศินกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ บลจ.กสิกรไทยสามารถคว้ารางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทการลงทุนหุ้นไทย (Best Fund House - Domestic Equity) รวมถึงกองทุน RMF และ LTF หุ้นไทย มาครองได้สำเร็จสูงสุดถึง 3 รางวัล ซึ่งนับเป็นการการันตีคุณภาพถึงการบริหารจัดการกองทุนหุ้นไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม สะท้อนได้ถึงผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นไทยของ บลจ.กสิกรไทย ที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น และสามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K SUPERSTAR SSFX สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่านแอปฯ K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ลงทุนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป บลจ.กสิกรไทยได้จัดโปรโมชันพิเศษ เมื่อลงทุนทุก 50,000 บาท รับ Cash Back 100 บาท (สูงสุด 400 บาท/ท่าน)