บอร์ด TACC ประกาศจัดทำโครงการซื้อหุ้นคืนจำนวนไม่เกิน 18 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท ฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุนฝ่าวิกฤต COVID-19 รวมถึงบริหารสภาพคล่องให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ระบุจะช่วยดันผลตอบแทน ROE-EPS เพิ่มส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นทุกคน ดีเดย์วันที่ 8 เม.ย.-7 ต.ค. 2563 ยันไม่ได้รับผลกระทบ กทม.สั่งปิด 26 สถานที่เสี่ยง
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 18 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 3% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท โดยเป็นการเข้าซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2563-7 ตุลาคม 2563
สำหรับการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้เพื่อบริหารสภาพคล่องทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินและศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนในอนาคตของบริษัทฯ และเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) หลังจากในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานอย่างมาก จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
ข้อมูลกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีกำไรสะสมเท่ากับ 104.27 ล้านบาท และมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นคงเหลือจำนวน 556.68 ล้านบาท นอกจากนี้ ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนข้างหน้า บริษัทฯ ประมาณการว่าจะมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน
ดังนั้นจึงมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้ที่จะถึงกำหนดชำระในอีก 6 เดือนข้างหน้านับแต่วันที่ซื้อหุ้นคืน และมีเงินสดคงเหลือเพียงพอที่จะนำมาใช้ในการซื้อหุ้นคืนตามโครงการ
เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากําไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ผลกระทบภายหลังซื้อหุ้นคืน
สำหรับผู้ถือหุ้นจะทำให้ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้นด้วย และสำหรับบริษัทนั้นจะส่งผลให้เงินสดของบริษัทฯ และส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการดําเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ซึ่งผลที่ได้รับจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น
สำหรับผลกระทบจากกรณีที่ กทม.ประกาศปิด 26 สถานที่เสี่ยงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประธานกรรมการบริหาร TACC ยืนยันว่ายอดขายของ TACC ส่วนใหญ่อยู่ในเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งได้รับประโยชน์จากการที่ กทม.อนุญาตให้เปิดร้านสะดวกซื้อได้ตามปกติ โดยคาดว่าแนวโน้มงบไตรมาส 1/63 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง