นักบริหารเงินธนาคารพาณิชย์ ระบุ เงินบาทวานนี้ปิดตลาดที่ 33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากเปิดตลาดที่ 32.86 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยหลักๆ มาจากความกังวลในสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทีมีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของประเทศไทย จึงทำให้มีแรงเทขายทั้งในส่วนของตลาดหุ้น ตลาดตราสาร และเงินบาทออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะออกมาตรการเสริมสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ก็ตาม แต่ยังไม่สามารถฟื้นความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนได้ โดยระหว่างวันค่าเงินบาทแข็งค่าสุดที่ระดับ 32.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 33.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประเมินแนวโน้มเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-33.30 ต่อดอลลาร์สหรัฐเทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 32.50 ต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 2.68 หมื่นล้านบาท และ 3.56 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบทุกสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนกังวลกับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และรีบเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางภาวะสภาพคล่องดอลลาร์ตึงตัวในวงกว้าง โดยตลาดจะติดตามสถานการณ์สภาพคล่องสกุลเงินดอลลาร์หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดวงเงินสว็อปกับธนาคารกลางอื่นๆ เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการทางการคลังท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจากการระบาดของไวรัส
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สู่จุดต่ำสุดครั้งใหม่ที่ 0.50% ในวันที่ 25 มี.ค.หลังการประชุมนัดพิเศษวันที่ 20 มี.ค.มีมติเอกฉันท์ให้ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.00% เป็น 0.75% โดย กนง.ระบุว่า การระบาดของ COVID-19 ในระยะข้างหน้ารุนแรงกว่าที่เคยประเมินไว้เดิมซึ่งจะส่งผลกระทบเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งกระทบสภาพคล่องและกลไกการทำงานของตลาดการเงินไทย