นักบริหารเงินธนาคารพาณิชย์ ระบุค่าเงินบาทวันนี้ปิดตลาดที่ 32.08 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากเปิดตลาดที่ระดับ 31.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนมีความกังวลในสถานการณ์ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มในอัตราที่สูงขึ้น ขณะที่ตลาดทุนก็ยัมีความผันผวน ทำให้มีการเทขายเงินบาทออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเงินแข็งค่าสุดของวันที่ระดับ 31.66 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่าสุดที่ 32.09 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-32.20 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 31.79 ต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 10 เดือน ท่ามกลางการร่วงลงอย่างรุนแรงของราคาหุ้นและพันธบัตร ทั้งนี้ มองว่าตลาดจะยังผันผวนสูงตามความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ขยายวงและลากยาวมากขึ้น
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดดอกเบี้ยลง 1.0% สู่กรอบเป้าหมายที่ 0.0-0.25% ในการประชุมฉุกเฉินวันที่ 15 มี.ค. และเฟดประกาศว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรและหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสินเชื่อจำนองมูลค่าอย่างน้อย 7 แสนล้านดอลลาร์ โดยระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสกำลังกระทบเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เฟดเพิ่งปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ในภาวะเช่นนี้ เราประเมินว่าเฟดกำลังเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญหากการใช้กระสุนดอกเบี้ยนัดสุดท้ายไม่สามารถกอบกู้ความเชื่อมั่นกลับมาได้ ซึ่งในกรณีนี้จะส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงและสกุลเงินตลาดเกิดใหม่เผชิญแรงขาย และกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าช่วงต้นสัปดาห์
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีกำหนดประชุมตามรอบปกติวันที่ 25 มี.ค. ถึงแม้จะไม่มีการเรียกประชุมฉุกเฉิน แต่เราคาดว่า กนง.จะตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 0.25% จากระดับ 1.00% โดยภาวะชะงักงันของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 กำลังกระทบการจ้างงานในวงกว้างและยาวนานกว่าที่ประเมินไว้ ยิ่งฉุดรั้งแนวโน้มการเติบโตให้ต่ำกว่าศักยภาพ รวมถึงปัจจัยแวดล้อมที่ผู้ดำเนินนโยบายการเงินทั่วโลกร่วมมือกันเร่งลดดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำมากเป็นพิเศษอาจทำให้ กนง.ตัดสินใจง่ายขึ้นบ้าง