ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) เดินหน้าตอกย้ำไตรมาสแรกยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แม้บรรจุภัณฑ์อาหาร “B-LEAF” ดีเลย์ในการทำตลาดออกไปเป็นเมษายนนี้ แต่ยอดออเดอร์ถุงพลาสติกประเภทถุงร้อน และถุงหูหิ้วยังมีดีมานด์ เห็นได้จากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมายอดคำสั่งซื้อมีต่อเนื่อง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “ไวรัสโคโรนา 2019” หรือโควิด-19 ที่กินระยะเวลานาน จนครบรอบ 1 ไตรมาส ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทผู้ประกอบการในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องสรุปภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรกของปี 2563 ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าวิกฤตดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเชิงมหภาค ทั้งการลงทุน ทั้งระบบเศรษฐกิจ รวมถึงภาคตลาดทุน เนื่องจากทุกอย่างถูกเชื่อมโยงเป็นลูกโซ่ จนทำให้หลายๆ ธุรกิจอุตสาหกรรมมีความจำเป็นจะต้องกำหนดนโยบายหาทางออกเพื่อความอยู่รอดขององค์กรและธุรกิจในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้
นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS ผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร และถุงหูหิ้ว ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “หมากรุก” และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ภายใต้ตราสัญญาลักษณ์ “ Vow Wrap” และบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษบรรจุอาหารจากเยื่อไผ่ ภายใต้แบรนด์ “B-LEAF” เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า จากการประเมินภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 1/2563 ของ TPLAS ยังดำเนินการไปตามปกติ
เบื้องต้นบริษัทฯ ประมาณอัตราการเติบโตในไตรมาสแรกจะเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้ แม้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลต่อการขนส่งวัตถุดิบเพื่อการผลิตทำให้แผนการผลิตกล่องกระดาษบรรจุอาหารล่าช้าออกเป็นเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่คาดว่าจะผลิตอยู่ที่ 650,000 ใบต่อเดือน จากแผนเดิมที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเดินเครื่องผลิตสินค้ากล่องบรรจุอาหารได้ในเดือนมีนาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง เช่น ผลิตภัณฑ์ประเภทชาม และผลิตภัณฑ์ประเภทถ้วยกระดาษ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะส่งผลให้มียอดขายจากผลิตภัณฑ์แบรนด์ “B-LEAF” ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ในปีนี้ประมาณ 30 ล้านบาท
“การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการในส่วนของการทำงานของมาร์เกตติ้งมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานที่ต้องเดินทาง ก็จะมีการแนะนำการป้องกันตัวเอง และในส่วนของการผลิต โรงงานของบริษัทฯ ได้รับมาตรฐานด้านการผลิตที่มีระบบฆ่าเชื้อก่อนเข้าโรงงาน และก่อนออกจากโรงงาน รวมทั้งในระหว่างการปฏิบัติงานมีการใช้หน้ากาก หมวกเก็บผมอย่างรัดกุมที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าโรงงานของ TPLAS ปลอดภัยในการผลิตแน่นอน”
ในส่วนของภาพรวมธุรกิจบรรจุภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร และถุงหูหิ้ว ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “หมากรุก” และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “Vow Wrap” นั้น กรรมการผู้จัดการ TPLAS กล่าวว่า ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ถุงพลาสติกประเภทถุงบรรจุอาหาร และถุงหิ้วยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมายังคงมียอดคำสั่งซื้อจากตัวแทนจำหน่าย (ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว) อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะไม่หวือหวาเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ เพราะมองว่าถุงพลาสติกยังมีความต้องการใช้ในกลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่มีชีวิตจับจ่ายใช้สอยในตลาดสด อาทิ อาหารสด หรือแม้แต่อาหารร้อน ที่สำคัญสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคได้มากที่สุด
นายธีระชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับปี 2563 นี้แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ก็ตาม แต่บริษัทฯ ยังคงเชื่อมั่นว่าด้วยธุรกิจอุตสาหกรรมของ TPLAS ได้รับผลกระทบไม่มากนักเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ทำให้บริษัทฯ มองว่ายังสามารถเติบโตได้ ซึ่งสัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหาร ถุงหูหิ้ว และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ประมาณ 95% และในส่วนกล่องกระดาษบรรจุอาหารประมาณ 5% ส่วนหนึ่งมาจากการปรับกลยุทธ์แบบเชิงรุก โดยการเพิ่มไลน์ผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่รักษ์สิ่งแวดล้อมจะเข้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯ ในอนาคตได้เพิ่มขึ้น