จากภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับระดับราคาสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคัด 10 หุ้นปันผลที่ให้ผลตอบแทนสูงและเหมาะต่อการออมเพื่อการลงทุนระยะยาว
ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แนะนำช่องทางลงทุนในช่วงภาวะดอกเบี้ยต่ำและยังอยู่ในทิศทางขาลง โดยอัตราดอกเบี้ยเเงินฝาก 12 เดือนของสถาบันการเงินในประเทศ อยู่ที่ระดับ 0.25-1.85% และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี อยู่ที่ในระดับ 0.88% ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับ 0.8% อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีแนวโน้มลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน
ขณะที่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2553-2562) พบว่า บริษัทจดทะเบียนไทยจ่ายเงินปันผลให้ผู้ลงทุนรวมสูงถึง 4.74 ล้านล้านบาท โดยปี 2562 มีการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 610,768 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตของเงินปันผลเฉลี่ย 7.37% ต่อปี
จากเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นปันผล (Dividend Universe) พบว่า บริษัทที่ปันผลอันดับ 1 คือ บมจ.โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป (MODERN) ปันผลเฉลี่ย 9.95% อันดับ 2 บมจ.เซอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) (MAI) (SWC) ปันผลเฉลี่ย 9.87% 3.บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล (LHK) ปันผลเฉลี่ย 9.46% 4.บล.เคจีโอ(ประเทศไทย) (KGI) ปันผลเฉลี่ย 8.54% 5.บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) ปันผลเฉลี่ย 8.14% 6.บมจ.มัลติแบกซ์(MAI) (MBAX) ปันผลเฉลี่ย7.96% 7.บมจ.พรีเมียร์ เทคโนโลยี (PT) ปันผลเฉลี่ย 7.89% 8.บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ปันผลเฉลี่ย 7.86% 9.บมจ.พาโตเคมีอุตสาหกรรม (PATO) ปันผลเฉลี่ย 7.58% และ 10.บมจ.แอ็ควานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี (AIT) ปันผลเฉลี่ย 7.57%
ซึ่งบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Dividend Universe ชุด 5 ปี ให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดรวม 47.54% ขณะที่ SET Index ให้ผลตอบแทนรวม 22.10% ดังนั้น การลงทุนในหุ้นปันผลจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้มีเงินออมที่ต้องการลงทุนในระยะยาว
