กรมสรรพากร ออกมาตรการยกเว้นภาษี เพื่อสนับสนุนและจูงใจให้ผู้ประกอบการในบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล เข้าร่วม “โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภาคสมัครใจ” เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “ขณะนี้กรมสรรพากรกำลังเตรียมการที่จะออกมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริม “โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภาคสมัครใจ” โดยกำไรสุทธิจากการดำเนินโครงการดังกล่าว จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลาสามรอบบัญชีต่อเนื่องกัน ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มีความตื่นตัวในปัญหาภาวะโลกร้อน และส่งเสริมให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องต่อเจตนารมณ์ของประเทศไทยในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 20 ภายในปี พ.ศ.2573 อีกทั้งช่วยลดภาระการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในการดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ต่างๆ ของการเข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่ (1) โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ได้สิทธิประโยชน์ ได้แก่ โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ซึ่งจำหน่ายคาร์บอนเครดิตประเภท Voluntary Emission Reductions (VERs) ที่ได้ขึ้นทะเบียนการดำเนินโครงการ จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 (2) การเริ่มนับรอบระยะเวลาบัญชีแรกที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี คือ รอบระยะเวลาบัญชีที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกได้ออกใบรับรองการจำหน่ายคาร์บอนเครดิตให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ (3) ให้บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลแยกยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของกิจการและโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ โดยให้ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรเดียวกันในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้
โฆษกกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า การออกมาตรการในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดความร่วมมือจากภาคเอกชนในการส่งเสริมและพัฒนาโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะเป็นการพัฒนาระบบนิเวศของประเทศและประชาคมโลกให้ดียิ่งขึ้นด้วย