xs
xsm
sm
md
lg

DRT ชูวิชันครบรอบ 35 ปี ขับเคลื่อนสู่องค์กรนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิต

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘ผลิตภัณฑ์ตราเพชร’ เปิดแผนธุรกิจปี 2563 ในโอกาสครบรอบ 35 ปี เดินหน้าลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง วางงบลงทุนในปีนี้รวมประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อใช้ติดตั้งระบบโรบอตเพิ่มอีก 10 ตัว ตามแผนงานลงทุนระยะยาวติดตั้งโรบอต 50 ตัวภายใน 5 ปี และติดตั้งเครื่องจักร NT-11 เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์อีก 5.5 หมื่นตันต่อปี คาดแล้วเสร็จปลายปีนี้ พร้อมรุกพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อขยายไลน์ผลิตภัณฑ์และเสริมความครบวงจร

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูป และบริการหลังการขายภายใต้ตราสินค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงแผนดำเนินงานปี 2563 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 35 ปีของ DRT ได้วางแผนดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อนกระบวนการผลิตให้ทันสมัยเพิ่มประสิทธิภาพภายในโรงงานและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันที่ดียิ่งขึ้นเพื่อนำบริษัทฯ ก้าวเป็นองค์กรด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตวัสดุก่อสร้าง

โดยปีนี้ตั้งงบลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.การลงทุนติดตั้งระบบโรบอตในโรงงานเพิ่มอีกประมาณ 10 ตัวในไลน์การผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์และงานพ่นสีวัสดุซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนต่อเนื่องในการติดตั้งโรบอต 50 ตัว ภายในระยะเวลา 5 ปี (ปี 2562-2566) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสู่ Process Innovation และรับมือปัญหาแรงงานขาดแคลน รวมถึงบริหารต้นทุนการผลิตในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น 2.ลงทุนติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในสายการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ NT-11 เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ 5.5 หมื่นตันต่อปี ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จปลายปีนี้และเริ่มเดินเครื่องจักรผลิตเชิงพาณิชย์ต้นปี 2564 และ 3.บำรุงรักษาเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพที่ดีและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ขณะเดียวกัน จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่มหลังคา การนำเทคโนโลยี Digital Printing มาใช้ในกระบวนการพิมพ์ลวดลายที่มีความคมชัดสูงลงบนพื้นผิววัสดุ เป็นต้น เพื่อขยายตลาดใหม่และเสริมความครบวงจรของผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ ซึ่งจะทำให้สินค้า ‘ตราเพชร’ ตอบโจทย์การออกแบบและความต้องการใช้สินค้าเพื่อการตกแต่งที่อยู่อาศัยได้ดียิ่งขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวต่อว่า แนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้างปี 2563 คาดว่าจะเติบโตในระดับเดียวกับภาพรวมเศรษฐกิจ โดยมีปัจจัยหลักที่ต้องติดตามคือ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) และผลกระทบจากภัยแล้งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรในภูมิภาคต่างๆ และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงวางเป้าหมายรักษาอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ในระดับ 25-27% โดยเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีผ่านกลยุทธ์การบริหาร Product Mix การบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 80-90% เท่ากับปีที่ผ่านมา เพื่อให้มีต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วยอยู่ในระดับต่ำ

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน DRT มีสัดส่วนยอดขายจาก 4 ช่องทางหลัก ประกอบด้วย ช่องทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยประมาณ 50% ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ 17-18% ลูกค้าโครงการ 15-16% และส่งออก 15-17% โดยบริษัทฯ จะรักษาสัดส่วนการขายสินค้าในประเทศจากทุกช่องทางและเน้นการส่งออกสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่องมาตลอด จะเป็นหนึ่งในตลาดหลักของการส่งออกที่มีการเติบโตได้ดีในปีนี้
สมาร์ทคอนกรีต โชว์ผลประกอบการปี 62 รายได้รวม 466.82 ล้านบาท กำไรโต 67.16 ล้านบาท
สมาร์ทคอนกรีต โชว์ผลประกอบการปี 62 รายได้รวม 466.82 ล้านบาท กำไรโต 67.16 ล้านบาท
SMART โชว์ผลประกอบการปี 62 กวาดรายได้รวม 466.82 ล้านบาท กำไรสุทธิโต 67.16 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผล0.05 บาท/หุ้น หรือ 72% ของกำไรสุทธิหลังหักขาดทุนสะสมและสำรองตามกฎหมาย เผยทิศทางธุรกิจปี63 แนวโน้มค่อนข้างดี นโยบายโครงการภาครัฐหนุน EECโครงการอสังหาฯ ทยอยลงทุนเดินหน้าขยายฐานลูกค้ารายย่อย ผู้รับเหมา สถาปนิก ชูกลยุทธ์พัฒนาสินค้า อิฐมวลเบาตกแต่ง-ประหยัดพลังงาน ขยายช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดดีลเลอร์ทั่วประเทศ ขณะที่ตลาดต่างประเทศ มียอดสั่งซื้อต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 5 % รายได้ 490 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น