การเคหะฯ เตรียมระดมทุนผ่าน "Social Bond" วงเงินเกือบ 7,000 ล้านบาท และพร้อมเตรียมผลักดันงบที่ ครม.อนุมัติอีก 5,200 ล้านบาท เพื่อดูแลให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าแหล่งสินเชื่อ และมีโอกาสได้มีบ้านเป็นของตนเอง
ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจัดงานแถลงข่าวครบรอบ 47 ปี พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากปี 2562 ที่ผ่านมา การเคหะฯ มีผลการดำเนินงานเข้าเป้าตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งในปี 2563 การเคหะแห่งชาติพร้อมขับเคลื่อนแผนงานและภารกิจด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีแผนงานและแนวคิดเพื่อต่อยอดเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยอีกมาก โดยหนึ่งในแนวคิดที่จะดำเนินการเพื่อสานต่อนโยบายและขับเคลื่อนกลไกดังกล่าว คือ การเคหะฯ ระดมทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องโดยการออกพันธบัตรเพื่อสังคมและลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มผู้สูงอายุ (Social Bond) ในวงเงิน 6,900 ล้านบาทภายในปี 2563นี้
สำหรับ การออกพันธบัตรเพื่อสังคม (Social Bond) มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นการระดมทุนเพื่อพัฒนาสังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนโดยเฉพาะช่วยปลดล็อกให้ผู้ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางทั่วประเทศได้เข้าถึงที่อยู่อาศัยราคาถูกและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้ผู้สนใจที่ต้องการมีบ้านแต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ในสภาวะตลาดและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมทั้งลูกค้าเก่าของการเคหะฯ ที่มีปัญหาเรื่องการผ่อนชำระได้มีทางออกในการป้องกันหนี้สูญ
นอกจากนั้น สำหรับลูกค้าใหม่ที่มีปัญหายื่นกู้ไม่ผ่านจากสถาบันการเงินอื่นๆ การเคหะฯ พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนให้ผ่านโครงการกองทุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับอนุมัติจาก ครม.ภายในวงเงินประมาณ 5,200 ล้านบาท โดยใช้รูปแบบการเช่าก่อนซื้อ (rent to buy) และออมก่อนซื้อ (saving to buy) เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติได้ในรูปของเช่าก่อนในระดับที่เหมาะสมต่อกำลังการผ่อน และสามารถเปลี่ยนเป็นการซื้อได้เมื่อมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น โดยค่าเช่าที่ผ่อนสามารถนำมาลดเงินกู้ซื้อบ้านได้ รวมไปถึงขยายโอกาสทางการตลาดให้ครอบคลุมอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายตามนโยบายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ได้กำหนดโดยให้ความสำคัญและรองรับความต้องการของผู้สูงวัยและผู้พิการที่มีความต้องการได้บ้านเพื่ออยู่อาศัยในช่วงบั้นปลายชีวิตอีกด้วย
การเคหะฯ ยังมีโครงการร่วมทุนกับภาคเอกชน (PPP) ในการทำโครงการต่างๆ ทุกรูปแบบ ทั้งในส่วนของที่พักอาศัยแนวราบและแนวสูง โครงการมิกซ์ยูสและอื่นๆ อีกทั้งยังมีโครงการพัฒนาและฟื้นฟูเมืองตามนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ควบคู่ของสหประชาชาติไปกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมโดยการเข้าถึงด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนทุกคนในประเทศอีกด้วย