UNIQ เผยนักลงทุนจองซื้อหุ้นกู้ครบ 3 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 11-13 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้ของบริษัทอย่างล้นหลาม เนื่องจากเชื่อมั่นพื้นฐาน และมีผลตอบแทนตอบโจทย์ช่วงภาวะ ดบ.ต่ำ
นายเติมพงษ์ เหมาะสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) เปิดเผยว่า นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้ของบริษัทอย่างล้นหลาม ส่งผลให้บริษัทพิจารณาใช้หุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม และปิดการขายเต็มจำนวน 3,000 ล้านบาท หลังจากได้เสนอขายไปเมื่อวันที่ 11-13 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ในระดับ BBB ขณะที่อันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรอยู่ที่ "BBB+" แนวโน้ม "คงที่" อายุ 3 ปี ผลตอบแทน 3.70% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
"บริษัทขอขอบคุณนักลงทุนที่ไว้วางใจและมั่นใจในหุ้นกู้ของบริษัทฯ รวมถึงธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายที่ทำให้การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งหลังจากนี้ บริษัท จะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงใช้ในการประกอบธุรกิจตามแผนงาน ได้แก่ การลงทุนในโครงการก่อสร้างระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) บางซื่อ-รังสิต รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่จะมีในอนาคต" นายเติมพงษ์กล่าว
ด้านนายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้หุ้นกู้ของ UNIQ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน จากความเชื่อมั่นในพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ในฐานะผู้รับเหมารายใหญ่ของประเทศ โดยเป็นผู้รับเหมาชั้น 1 และชั้นพิเศษในหลายหน่วยงานราชการ ที่มีความสามารถในการรับงานโครงการขนาดใหญ่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้จัดทำโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายโครงการ ยังมาจากการที่นักลงทุนแสวงหาผลตอบแทนที่น่าพอใจ ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงแสวงหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอในภาวะที่ภาพรวมการลงทุนมีความผันผวนจากหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบอีกด้วย
ทั้งนี้ UNIQ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่มุ่งเน้นงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในด้านบริหารการจัดการและการเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงให้เหมาะสม เช่น งานก่อสร้างสะพานโครงสร้างเหล็กและสะพานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก งานก่อสร้างอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ทางแยก งานก่อสร้างทางพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและแอลฟัลท์ติกคอนกรีต งานระบบสาธารณูปโภคใต้ดินทั้งไฟฟ้า ประปาและโทรศัพท์ เป็นต้น
รวมถึงงานในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่มูลค่าโครงการสูง หรือเป็นโครงการที่ต้องอาศัยความชำนาญหรือเทคโนโลยีเฉพาะด้าน โดยลูกค้าของบริษัท จะเป็นหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น กรมทางหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น เนื่องจากผลงานของบริษัท ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงคุณภาพและการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้มีโอกาสรับงานจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และในสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันการที่บริษัทฯ เลือกประมูลงานกับทางภาครัฐก็เป็นการลดความเสี่ยงเรื่องหนี้สูญที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับงานจากภาคเอกชน
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างกับการรถไฟแห่งประเทศไทยในการก่อสร้างโครงการจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ และโทรคมนาคมในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทางคู่ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 2,800 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 62 บริษัทฯ มีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ มูลค่าประมาณ 90,000 ล้านบาท และยังไม่รับรู้รายได้อีกประมาณ 16,000 ล้านบาท ซึ่งมีอายุสัญญาอีกประมาณ 3 ปี ซึ่งในระหว่าง 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ เชื่อว่ามีความสามารถหางานเพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทางภาครัฐจำเป็นต้องเร่งผลักดันให้มีการลงทุนในสาธารณูปโภคด้านต่างๆ ผ่านแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
"ต้องยอมรับว่า หุ้นกู้ UNIQ ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน ซึ่งพิจารณาปัจจัยการลงทุนจากผลตอบแทนที่น่าพอใจและสม่ำเสมอ รวมถึงความเสี่ยงจากการลงทุนที่ยอมรับได้ ซึ่งหุ้นกู้ UNIQ ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งที่ BBB และอันดับเครดิตองค์กรที่ BBB+ แนวโน้ม "คงที่" เป็นระดับ Investment grade หรือระดับที่ลงทุนได้ นอกจากนี้ ยังพิจารณาแนวโน้มอุตสาหกรรม ซึ่ง UNIQ ก็อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตในอนาคตอีกด้วย" นายรวินทร์ กล่าว