สำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นองค์กรคุณภาพที่ผ่านเกณฑ์ให้ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) ประจำปี 2562 รางวัลอันทรงเกียรติสูงสุด ที่เป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นเลิศในการบริหารจัดการองค์กรว่ามีความทัดเทียมมาตรฐานโลก โดย ธอส. ถือเป็นสถาบันการเงินแห่งแรก และเป็นสถาบันการเงินของรัฐเพียงแห่งเดียวที่ได้รับรางวัล TQA และไม่มีหน่วยงานใดในประเทศได้รับรางวัลนี้มานานถึง 10 ปี
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า สำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นองค์กรคุณภาพที่ผ่านเกณฑ์ให้ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) ประจำปี 2562 รางวัลอันทรงเกียรติสูงสุด ที่เป็นเครื่องหมายแสดงถึงความเป็นเลิศในการบริหารจัดการองค์กรว่า มีความทัดเทียมระดับมาตรฐานโลก โดย ธอส. ถือเป็นสถาบันการเงินแห่งแรก และยังเป็นสถาบันการเงินของรัฐเพียงแห่งเดียวที่ได้รับรางวัล TQA รวมทั้งยังไม่เคยมีหน่วยงานใดในประเทศไทยได้รับรางวัล TQA มาเป็นเวลานานถึง 10 ปี
ทั้งนี้ ธอส. ได้เริ่มนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติเป็น มาประยุกต์ใช้ในองค์กรตั้งแต่ปี 2559 ควบคู่ไปกับระบบประเมินคุณภาพรัฐวิสาหกิจ (SEPA) และสมัครเข้ารับการตรวจประเมินตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติเมื่อปี 2561 เป็นปีแรก และได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ Thailand Quality Class : TQC ประจำปี 2561 ได้ทันที และจากนั้นได้นำรายงานผลการตรวจประเมินในปี 2561 ซึ่งระบุจุดแข็งและจุดที่ควรปรับปรุงมาใช้ในการวางแผนเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการบริหารจัดการองค์กรให้สมบูรณ์มากขึ้น จนนำมาสู่รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) ประจำปี 2562 ซึ่งถือเป็นรางวัลที่การันตีว่า การดำเนินงานทุกด้านของธนาคารมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วยการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้อย่างมีคุณภาพและเป็นระบบ
ตลอด 66 ปีที่ผ่านมา ธอส. มุ่งมั่นในการทำให้คนไทยมีบ้านตามพันธกิจของธนาคารมาแล้วกว่า 3.7 ล้านครอบครัว และยังคงมีผลการดำเนินงานที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องทุกด้าน ซึ่ง ณ สิ้นปี 2562 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 215,301 ล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,209,264 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.37% จากสิ้นปี 2561 คิดเป็น 30% ของส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างในระบบสถาบันการเงิน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 13,352 ล้านบาท
สิ่งสำคัญที่ทำให้องค์กรมีผลลัพธ์ในการดำเนินงานเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่กำหนดทุกตัวชี้วัดเกิดจากการนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติมาใช้ในกระบวนการทำงานครอบคลุมทั้ง 6 หมวดที่สำคัญในการจัดการและการดำเนินการขององค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยความเชื่อที่ว่า “ผลลัพธ์ที่ดี มาจากกระบวนงานที่ดี” (Good results come from Good processes) ทั้งในด้านการนำองค์กรของผู้นำระดับสูง การวางแผนกลยุทธ์ การดูแลกลุ่มลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การวิเคราะห์ติดตามประเมินผลและเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้ทันต่อสถานการณ์ การจัดการความรู้ขององค์กร หรือ Knowledge Management รวมถึงการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากร ซึ่งทุกหมวดได้ทำงานแบบบบูรณาการร่วมกันอย่างเป็นระบบและสอดคล้องกันทุกระดับภายในองค์กร ตั้งแต่กลุ่มงาน สายงาน ฝ่าย/สำนัก/ภาค และสาขาหรือส่วนงานในสำนักงานใหญ่ ที่นำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานประจำวันภายใต้บริบทของตัวเอง
“ผลลัพธ์สำคัญที่ตามมาจากการนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติมาปรับใช้คือจะนำไปสู่การตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขยายระเวลาการให้ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 40 ปี การ Over Night Approve หรืออนุมัติสินเชื่อภายใน 1 วันหลังยื่นกู้ การนำระบบปฏิบัติงานหลักที่มีขนาดใหญ่และสำคัญที่สุดของธนาคารอย่าง GHB System ขึ้นใช้งานทดแทนระบบเดิมได้ตามกำหนด โดยให้บริการลูกค้าทั่วประเทศได้อย่างไร้ร้อยต่อ ซึ่งระบบดังกล่าวยังทำให้ธนาคารสามารถพัฒนาบริการใหม่ๆ ในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลได้มากขึ้น รวมถึง Mobile Application : GHB ALL ซึ่งมีบริการในสิ่งที่ลูกค้าของ ธอส. ต้องการ เช่น ตรวจสอบสถานะสินเชื่อ ชำระหนี้เงินกู้ โอนเงิน แจ้งเตือนชำระหนี้ และค้นหาทรัพย์ NPA เป็นต้น รวมถึงการนำ Digital Dashboard มาปรับใช้ในการกำกับและติดตามทุกขั้นตอนที่เกี่ยวกับการอำนวยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าตั้งแต่วันยื่นกู้ไปจนถึงทำนิติกรรมอีกด้วย” นายฉัตรชัย กล่าว