xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยคงเป้าสินเชื่อโต 4-6% เดินหน้ากลยุทธ์สู่ธนาคารภูมิภาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กสิกรไทยยังไม่ปรับเป้าหมายสินเชื่อโตแม้มีปัจจัยลบเข้ามาเพิ่ม มั่นใจยังได้ตามที่ตั้งไว้ ทั้งสินเชื่อ-เอ็นพีแอล พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ผนึกกำลังพันธมิตร เพิ่มศักยภาพระดับภูมิภาคด้วยเทคโนโลยีระดับโลก เดินหน้าสู่ Regional Bank

น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)เปิดเผยว่า เป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อธนาคารในปีนี้ที่ตั้งไว้ในระดับ 4-6% นั้น ขณะนี้ยังไม่มีการทบทวนแม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันเข้ามาเพิ่ม เช่น การแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา โดยยังคงกรอบการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ 2.5-3.0% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก็จะคงที่ 3.4% ตามเป้าหมาย แม้อาจจะมีบางช่วงที่เพิ่มสูงกว่าบ้างจากการปรับตามเกณฑ์ใหม่แต่ก็เชื่อว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่มากและสามารถบริหารจัดการได้

นอกจากนี้ ภายใต้ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย ควบคู่กับบทบาทของเทคโนโลยีดิสรัปชันในหลายอุตสาหกรรทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ธนาคารกสิกรไทยจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ที่ยังคงยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และกำหนดเป้าหมายสำคัญคือ การเพิ่มอำนาจให้ทุกชีวิตและทุกธุรกิจของลูกค้า ด้วยการยกระดับองค์กรในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อผสานช่องทางบริการอย่างไร้รอยต่อ การเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นจากฐานข้อมูลอัจฉริยะ รวมถึงการขยายไปสู่ตลาดภูมิภาคเพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ และการยกระดับทางด้านเทคโนโลยีและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า นอกเหนือจากนั้น ธนาคารให้ความสำคัญต่อการบริจัดการความเสี่ยงทั้งในด้านของความเสี่ยงพืันฐานทางการเงิน และการจัดการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากบริการที่เป็นดิจิทัล และในปี 2563 ธนาคารจะมีการยกระดับการให้ความสำคัญในการดูแลเรื่องความปลอดภัยบนไซเบอร์ และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้าในระดับสูงสุด และจะมีการนำเทคโนโลยีด้าน AI และ Machine Learning มาใช้ในการตรวจจับ Cyber Crime และ Cyber Risk ด้วย

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปริมาณธุรกรรมผ่าน K PLUS เพิ่มขึ้นกว่า 200% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกค้า ในขณะที่ปริมาณธุรกรรมผ่านสาขา แม้จะมีปริมาณลดลง แต่ก็ยังมีปริมาณที่มากจึงยังจำเป็นต้องมี แต่ก็จะลดในส่วนของสาขาที่มีปริมาณธุรกรรมน้อย หรืออยู่ในทำเลไม่เหมาะสม โดยไม่ได้ปรับลดจำนวนพนักงานลง ซึ่งในแต่ละปีจะมีจำนวนสาขาลดลง 40-50 แห่ง

"จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคน ซึ่งจากการสำรวจพบว่าคนใช้เวลาวันละเฉลี่ย 5 ชั่วโมงอยู่กับโทรศัพท์มือถือ โจทย์ของเราก็คือจะทำอย่างไรที่จะเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าที่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ซึ่งเราก็มี KPLUS เป็นหลักอยู่แล้ว และจะต้องพัฒนาต่อไปอีก รวมถึงการร่วมกับพันธมิตรต่างๆ ที่มีอยู่แล้วและพันธมิตรในอนาคต รวมถึงการทำ Social Banking ก็จะเริ่มให้เห็นในปีนี้เช่นกัน ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะทำให้เราเข้าถึงลูกค้าในช่องทางดิจิทัลได้มากขึ้น โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมาย Partners Onboarding 1.3 ล้านผู้ใช้ มีการใช้พอยนต์ผ่าน K PLUS 1,400 ล้านพอยนต์ มีสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน 36 พันล้านบาท และมีสินเชื่อบุคคลเพิ่ม 178 พันล้านบาท"

*เตรียมตั้ง Kai Tai Tech หนุนธุรกิจในจีน*
นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า แนวทางในการขยายธุรกิจของธนาคารไปยังภูมิภาคนั้น ธนาคารจะใช้กลยุทธ์ Asset-Light Regional Digital Expansion ซึ่งถือเป็นช่องทางที่ธนาคารจะนำพาลูกค้าขยายตลาดไปสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค รวมถึงการขยายธุรกิจในท้องถิ่นประเทศนั้นๆ ของธนาคารต่อไปในอนาคตด้วย โดยการเข้าไปทำธุรกิจนั้นก็จะขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์และความเหมาะสมของแต่ละประเทศ ทั้งการเข้าเป็นธนาคารท้องถิ่น การเปิดสาขา การร่วมทุนกับพันธมิตร หรือการเข้าไปซื้อหุ้น โดยขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการวางแผนที่จะเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมในประเทศอินโดนีเซีย เวียดนาม และพม่า

พร้อมกันนั้น ธนาคารอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อเตรียมยื่นขออนุญาตในการจัดตั้งบริษัท ไคไต้ เทคโนโลยี จำกัด (KAITAI Technology Company Limited) ที่เมืองเซินเจิ้น โดยมีภารกิจหลักคือ การพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการให้บริการของธนาคารกสิกรไทย ประเทศจีน การให้บริการดิจิทัลในภูมิภาค และสามารถนำนวัตกรรมที่ได้กลับมาใช้ประโยชน์กับธนาคารกสิกรไทยและลูกค้าไทยด้วยเช่นกัน

ด้าน นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า KBTG จะมุ่งสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและบุคลากร เพื่อให้บริการลูกค้าในทุกมิติของไลฟ์สไตล์ พร้อมตั้ง KASIKORN X เพื่อสนับสนุนในการสร้าง The new S-Curve Factory ให้แก่ธนาคาร พร้อมตั้งเป้าหมายเป็นบริษัทเทคโนโลยีอันดับ 1 ของอาเซียนในปี 2565 และได้เตรียมงบลงทุนด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและด้านบุคลากรใน 3 ปีนี้กว่า 17,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น