บล.บัวหลวง เผยตลาดรวม DW ปี 62 คึกคัก สะท้อนนักลงทุนมีความเข้าใจมากขึ้น คาดหวังระดับผลตอบแทนที่สูงขึ้นและรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น พร้อมคาดปี 63 ตลาดหุ้นผันผวนหนุนนักลงทุนเทรด DW ต่อเนื่อง
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ในฐานะผู้ออกและเสนอขาย DW01 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) ในปี 62 ที่ผ่านมา พบนักลงทุนถือครอง DW อ้างอิงหุ้นรายตัวสัดส่วนสูงขึ้น โดย ณ สิ้นปี 62 มีสัดส่วน 82% ต่อมูลค่าถือครอง DW ทั้งระบบ เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ผ่านมาที่สัดส่วนอยู่ที่ 70% รวมทั้งถือครอง DW อ้างอิงหุ้นรายตัวที่มีอัตราทดและค่าเสื่อมเวลาที่สูงขึ้นตลอดทั้งปี สะท้อนนักลงทุนมีความเข้าใจมากขึ้น คาดหวังระดับผลตอบแทนที่สูงขึ้นและรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น
ขณะที่จำนวน DW ในระบบเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยตลอดปี 62 มีจำนวน DW ที่ออกและเสนอขายเป็นจำนวน 3,887 รุ่น เพิ่มขึ้นจากปี 61 ที่มีจำนวน 2,784 รุ่น เนื่องจากโบรกเกอร์ออก DW เพิ่มขึ้นและออกหลายรุ่นในสินค้าอ้างอิงเดียวกัน ทำให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์นักลงทุนได้กว้างขึ้น สะท้อนตลาด DW มีความสมบูรณ์มากขึ้น
สำหรับภาพรวมการซื้อขายตลาด DW ปี 62 มูลค่าการซื้อขาย DW สะสมทั้งอุตสาหกรรมในปี 62 เท่ากับ 1.5 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบที่ 11.8% จากปี 61 อยู่ที่ 7.2% ถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่มีการเสนอขาย DW ในประเทศไทย สะท้อนตลาด DW ได้รับความนิยมสูงขึ้น
"ปี 2562 ถือเป็นปีที่ยากในการเทรด DW เนื่องจาก SET Index ปรับตัวพร้อมความผันผวนตลอดปีจากปัจจัยหลาย ๆ ด้าน โดยดัชนีเพิ่มขึ้นเพียง 1.02% ขณะที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรม DW เติบโต โดยจำนวนรุ่น DW ณ ขณะใดขณะหนึ่งในระบบปรับตัวสูงขึ้นแตะ 2,000 รุ่น เป็นครั้งแรกในไทย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับมูลค่าซื้อขาย DW ที่ปรับตัวสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา" นายบรรณรงค์ กล่าว
สำหรับ DW ณ สิ้นปี 62 มีจำนวนซื้อขายทั้งสิ้น 1,914 รุ่น เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 61 ที่มี 1,478 รุ่น โดยจำนวน Put DW เติบโตเกือบ 100% จาก 209 รุ่น ณ สิ้นปี 61 เป็น 407 รุ่น ณ สิ้นปี 62 ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกเข้าไปเก็งกำไรขาลงมากขึ้น ส่งผลให้สัดส่วนมูลค่าซื้อขาย Call DW ต่อการซื้อขาย DW ทั้งระบบในปี 62 อยู่ที่ 60.1% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่จำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงทั้งหมดลดลงจาก 110 รุ่นเหลือ 102 รุ่น โดยหลักทรัพย์บัวหลวงครองแชมป์ส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการถือครองเฉลี่ยสะสมในปี 62 เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมที่ 34.75%
ด้านหุ้นอ้างอิงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก อยู่ในกลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ 62.0% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 13.1% และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3.3% โดย DW อ้างอิงดัชนี SET50 ยังได้รับความนิยมสูงสุด มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 61.9% โดยเทรด Call และ Put ใกล้เคียงกันสอดคล้องดัชนีผันผวนตลอดปี
อันดับ 2 เป็น DW อ้างอิงหุ้น GULF ซึ่งได้รับความนิยมตลอดปี มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 3.0% โดยนักลงทุนเข้าเก็งกำไร DW ประเภท Call จำนวนมาก สอดคล้องราคาหุ้นที่ปรับตัวทำนิวไฮต่อเนื่อง อันดับ 3 DW อ้างอิงหุ้น GPSC มีสัดส่วนซื้อขาย 1.8% นักลงทุนเข้าลงทุนใน DW ประเภท Call จำนวนมาก โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ราคาหุ้นค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องถึงปลายปี อันดับ 4 DW อ้างอิงหุ้น PTG สัดส่วน 1.6% โดยครึ่งปีแรกราคาหุ้นขึ้นไปทำนิวไฮก่อนปรับตัวลงมาในครึ่งปีหลัง และอันดับ 5 เป็น DW อ้างอิงหุ้น CBG สัดส่วนการซื้อขาย 1.5% โดยเก็งกำไร DW ประเภท Call จำนวนมาก สอดคล้องราคาหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า เมื่อเทียบสิ้นปี 2561
นายบรรณรงค์ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาหลักทรัพย์บัวหลวงได้พัฒนาเครื่องมือและช่องทางการเข้าถึงข้อมูล DW อย่างต่อเนื่อง โดยพัฒนาช่องทางการเข้าถึง DW01 ผ่านทาง "น้องบัว" DW แชทบอทในโปรแกรม Facebook Messenger ตัวแรกและตัวเดียวในเมืองไทย และยังพัฒนา LINE: @DW01 ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึง DW01 ทุกรุ่น และ Indicators ต่างๆของ DW ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วตลอด 24 ชม.
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นพัฒนาประสบการณ์ในการเทรด DW ของนักลงทุนให้ดีขึ้น ผ่านแอพพลิเคชั่นอย่าง ASPEN BUALUANG TRADE ซึ่งสามารถเข้าถึงตารางราคาและการแสดงผลในหน้าจอเทรด DW ที่ดูง่ายและใช้ได้จริง และแอพพลิเคชั่น TRADE MASTER ที่สามารถเทรด DW ด้วยฟีเจอร์ AUTO TRADE ที่ช่วยให้เทรดอย่างเป็นระบบ รวมทั้งออก DW01 อ้างอิงหุ้นรายตัวเป็นซีรีส์ A และ ซีรีส์ B ที่มีระดับอัตราทดและค่าเสื่อมเวลาที่แตกต่างกันตอบโจทย์นักลงทุนที่มีสไตล์การเทรดที่หลากหลาย
"อุตสาหกรรม DW เติบโตขึ้นและมีผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเยอะ อยากย้ำว่าการเทรด DW ไม่เหมือนหุ้น มีความเสี่ยงสูงกว่า ดังนั้นหัวใจหลักในการลงทุน DW คือต้องมีวินัยในการลงทุน ต้องรู้จัก Cut Loss เมื่อลงทุนผิดทาง รวมถึงเข้าใจกลไกการทำงานของ DW และบริหารเงินในหน้าตักอย่างมีประสิทธิภาพ อย่ากล้าเทรดไม้ใหญ่เกินไป รวมทั้งประยุกต์ใช้เครื่องมือช่วยเทรดที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของนักลงทุนมืออาชีพยุคใหม่ในทุกมิติ" นายบรรณรงค์ กล่าว
นายบรรณรงค์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มตลาด DW ในปี 63 ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่อเนื่อง โดยปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าและสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน น่าจะส่งผลให้ตลาดยังผันผวนต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร DW ได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก DW สามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ขณะเดียวกันคาดว่าจำนวน DW ออกใหม่ในระบบจะมีมากขึ้น มีหลายรุ่นและมีฟีเจอร์ที่หลากหลาย ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกลงทุนหลากหลายขึ้น