“สรรพากร” เผยยังไม่มีข้อสรุปผลการพิจารณาความเป็นไปได้ในการขยายเวลาสิ้นสุดการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากเดือน มี.ค.63 ตามที่ สศค. เสนอมา โดยหวังจะเพิ่มสภาพคล่องในมือให้แก่ผู้ที่จ่ายภาษีฯ ได้ใช้จับจ่ายหมุนระบบเศรษฐกิจในช่วงที่การใช้งบฯ ปี 63 ยังมีความล่าช้ากว่าปกติ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงการหารือถึงแนวคิดของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่เสนอให้กรมสรรพากรขยายระยะเวลาในการยื่นแบบเพื่อชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไป จากปัจจุบันที่กำหนดสิ้นสุดจากเดือน มี.ค.63 ว่า กรมสรรพากรจะศึกษาแนวคิดกังกล่าวที่ สศค. เสนอมา และหากกรมสรรพากรมีข้อสรุปในการพิจารณาให้มีการขยายระยะเวลาสิ้นสุดการยื่นแบบการชำระภาษีออกไปจากกำหนดเวลาเดิมแล้ว จำเป็นต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเสียก่อน เพื่อออกเป็นพระราชกฤษฎีกาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
ส่วนสาเหตุที่ สศค. เสนอแนวคิดในการขยายระยะเวลาสิ้นสุดในการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปนั้น เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีสภาพคล่องในมือสำหรับการใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ดีขึ้นในระหว่างช่วงที่การใช้งบประมาณในปี 63 ยังมีความล่าช้ากว่าปกติ แต่ผู้ยื่นเสียภาษีเงินได้ฯ ส่วนหนึ่งจะต้องนำเงินมาชำระภาษีเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีข้อสรุปในการพิจารณาจากกรมสรรพกากรว่าจะขยายระยะเวลาการยื่นแบบภาษีไปจนถึงเดือน มิ.ย. หรือไม่ เนื่องจากยังต้องมีการพิจารณาถึงรายละเอียด รวมถึงความเป็นไปได้อีกด้วย แต่อธิบดีกรมสรรพากร ยังได้ย้ำว่า ผู้ที่ต้องการได้รับเงินคืนภาษีอย่างรวดเร็วนั้น สามารถยื่นแบบชำระภาษีเข้ามาได้ทันที ซึ่งกรมสรรพากรจะเร่งพิจารณาการคืนเงินภาษีให้แล้วเสร็จภายใน 1-3 วัน ทั้งนี้ ในปัจจุบันจะมีผู้ยื่นแบบชำระภาษีผ่านอินเทอร์เน็ตราว 80% ของจำนวนผู้ยื่นแบบเพื่อขอชำระภาษีโดยรวม อีกทั้งการขอคืนเงินภาษีส่วนใหญ่จะดำเนินการผ่านระบบพร้อมเพย์
