นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 62 ซึ่งเปิดให้ยื่นแบบตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2563 ว่า ปัจจุบันมีผู้ยื่นเสียภาษีแล้ว 2 แสนราย โดยส่วนใหญ่เป็นการยื่นแบบภาษีผ่านระบบอินเทอร์เน็ตประมาณ 80% ขณะที่ยอดการคืนเงินภาษีสามารถคืนได้แล้ว 70% โดยกรมสรรพากรยืนยันว่า ปีนี้หากผู้ยื่นเสียภาษีแจ้งข้อมูลถูกต้อง และไม่ถูกตรวจสอบและขอเอกสารเพิ่ม จะได้รับเงินคืนเข้าระบบผ่านพร้อมเพย์ได้ภายใน 2-3 วันแน่นอน
นายเอกนิติ กล่าวว่า ปัจจุบันกรมสรรพากรได้มีการเพิ่มระบบอำนวยความสะดวกในการหักรายการลดหย่อนภาษี ทั้งยอดเงินบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ เงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และล่าสุดสรรพากรได้แก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความสะดวกซึ่งจะเริ่มใช้ปีหน้า ได้แก่ การใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ และเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้ รวมทั้งบิดามารดาของสามีหรือภริยาของผู้มีเงินได้ ซึ่งช่วยให้ผู้เสียภาษีไม่ต้องเก็บเอกสารหลักฐานเพื่อนำมาใช้ประกอบการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และช่วยลดระยะเวลาในการพิจารณาคืนเงินภาษี ผู้เสียภาษีจะได้รับเงินคืนภาษีอย่างถูกต้อง
ขณะเดียวกัน นายเอกนิติ กล่าวถึงแนวคิดให้กรมสรรพากรขยายเวลาการยื่นแบบเพื่อชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปจากปกติจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม ว่า ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มีแนวคิดเรื่องนี้ออกมา ซึ่งกรมสรรพากรจะรับนำมาศึกษาแนวทางการดำเนินการให้เหมาะสม ซึ่งหากมีการขยายระยะเวลาจะต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณา ก่อนออกเป็นพระราชกฤษฎีกา เพื่อบังคับใช้ต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตอนนี้การยื่นภาษีเงินได้ยังกำหนดไว้เหมือนเดิม