‘อินเตอร์ ฟาร์มา’ ประเมินตลาดผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัยในกลุ่มโภชนเภสัชปี 63 เติบโต 15% ชูธงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สร้างความต่างที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ปูพรมสินค้าเพิ่มมากกว่า 20 รายการ ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและผู้ประกอบการฟาร์มปศุสัตว์ รุกทุกช่องทางการขายทั้งในและต่างประเทศ ดันภาพรวมรายได้ปีนี้โต 30%
ดร.ทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ IP เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัยในปี 2563 คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ และให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากกว่าการรักษาโรค ด้วยวิธีแบบนิวทราซูติคอล (Nutraceutical) หรือโภชนเภสัชบำบัด จึงมีผู้ประกอบการหลายรายที่แข่งขัน และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่นเดียวกับตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพของสัตว์เลี้ยงสำหรับสุนัขและแมว ที่ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมให้กับสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น เช่นอาหารสุนัขและแมวระดับพรีเมียม ที่บริษัทฯได้พัฒนาและเพิ่มจำนวนรสชาติมากขึ้น ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมไปถึงผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์ที่มีการเติบโตมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพ และพิถีพิถันเรื่องอาหารที่ใช้บริโภค
ผู้ประกอบการหลายรายจึงหันมาลดการใช้ยาปฏีชีวนะในการเลี้ยงสัตว์เพื่อการบริโภค เช่น หมูและไก่ ที่แม้ปัจจุบันจะมีราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ผู้บริโภคก็พร้อมจ่ายเพื่อให้ได้อาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ (Food Safety)ด้วยแนวโน้มดังกล่าว ทำให้ส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯมีแผนพัฒนาและนำสินค้าใหม่ๆออกสู่ตลาดทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ กว่า 20 รายการ โดยเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมในการรักษาและป้องกันโรคที่มีคุณภาพสูงและมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งมาทำตลาดเพิ่มขึ้น
“หลังจาก IP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ทำให้บริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้บริษัทฯ
สามารถรองรับแผนการคิดค้น และนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่มีนวัตกรรมในการช่วยที่ดูแลรักษาสุขภาพและชะลอวัย ออกมาจำหน่ายในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น” ดร.ทรงวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งสื่อสารการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย ได้แก่ ร้านโมเดิร์นเทรด ร้านขายยา โรงพยาบาล คลินิค ศูนย์สุขภาพความงาม ร้านเพ็ทช้อป ฟาร์มปศุสัตว์และช่องทางออนไลน์ พร้อมกันนี้ ยังมีแผนขยายการจำหน่ายออกสู่ตลาดต่างประเทศในกลุ่ม CLMV หรือ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงประเทศจีน เกาหลี และญี่ปุ่น โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการนำสินค้าเข้าไปทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศนั้นๆ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจากกลยุทธ์การดำเนินงานปีนี้ จะช่วยผลักดันรายได้รวมเติบโต 30% ซึ่งเป็นการเติบโตมากกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมเท่าตัว โดยมีสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน อยู่ที่ 60% และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์และปศุสัตว์อยู่ที่ 40%