“รมว.คลัง” เล็งออกออกมาตรการชิมช้อปใช้ระยะ 4 หนุนการใช้จ่ายประเทศ และใช้งบฯ ที่ ครม. เคยอนุมัติในโครงการให้หมด สั่ง สศค. พิจารณาหารูปแบบที่เหมาะสม
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการใช้มาตรการกระตุ้นการบริโภคของประชาชนผ่านมาตรการชิมช้อปใช้ว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาดำเนินมาตรการชิมช้อปใช้ ระยะที่ 4 หากเงินงบประมาณในโครงการฯ ยังคงมีเหลืออยู่ ตนก็ต้องการให้มีการจัดทำโครงการอย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณที่รัฐบาลได้เคยอนุมัติไว้
ทั้งนี้ ก่อนมาตรการฯ รัฐบาลได้เคยจัดทำโครงการชิมช้อปใช้ไปแล้วรวม 3 ระยะ และกำลังจะสิ้นสุดโครงการลงในวันที่ 31 ม.ค.63 ส่วนโครงการฯ ระยะที่ 4 จะเริ่มต้นได้เมื่อใด และจะจัดทำในรูปแบบใดนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่า จะพิจารณาตามความเหมาะสม โดยรูปแบบโครงการยังคงเน้นเรื่องความต่อเนื่องในการกระตุ้นการบริโภค เพื่อสร้างการใช้จ่ายภายในประเทศ
ด้านแหล่งข่าวกระทรวงการคลัง คาดถึงจำนวนเงินงบประมาณที่ยังคงเหลือของมาตรการชิมช้อปใช้ที่ผ่านมานั้น น่าจะมีประมาณ 5-6 พันล้านบาทจากวงเงินงบประมาณรวมที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติไว้ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นส่วนที่ 1 คือเงินงบประมาณที่ใช้เติมเงินในกระเป๋าที่ 1 รวม 1.3 หมื่นล้าน สำหรับประชาชนที่เข้าลงทะเบียนได้สำเร็จ 13 ล้านราย ซึ่งรัฐบาลจะโอนเงินเข้ากระเป๋าที่ 1 ให้ทันทีรายละ 1,000 บาท โดยเงินในส่วนแรกนี้จะมีการใช้จ่ายจริงอยู่ที่ 1.16 หมื่นล้านบาท
และส่วนที่ 2 คือ เงินงบประมาณของรัฐบาลที่จัดสรรไว้เพื่อการคืนเงินบางส่วน (Cash Back) ที่ 15% และ 20% ตามลำดับ ของวงเงินส่วนตัวของประชาชนที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ได้เติมเข้ากระเป๋าที่ 2 รวม 30,000 บาท และ 20,000 บาท ตามลำดับ โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อรองรับการจ่าย Cash Back นี้ไว้กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท แต่มีเงินที่จ่ายคืนจริงให้แล้วกว่า 2 พันล้านบาท
