หุ้นปิดเช้าบวก 5.03 จุด รับแรงหนุนจากกลุ่มโรงไฟฟ้า-รับเหมาฯ หลังสภาฯ ผ่านร่างงบประมาณปี 63 วาระ 2-3 แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้ปรับตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก หลังไม่มีปัจจัยชี้นำเป็นพิเศษ โดยตลาดฯ ได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ต่างปรับตัวขึ้น ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการที่สภาผู้แทนราษฎร ผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วาระ 2 และ 3 แล้ว
ขณะที่หุ้นในกลุ่มอื่นๆ วันนี้ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมา เช่น กลุ่มค้าปลีก ที่มีประเด็นเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส ซึ่งระยะสั้นมองว่าการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยที่จะเข้าประมูลซื้อกิจการในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าให้ชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามดูว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนไทยรายใดเข้าประมูลซื้อกิจการเทสโก้ โลตัสในเอเชีย รอบแรกวันที่ 15 ม.ค.นี้บ้าง หากไม่มีรายใดเข้าร่วมประมูลก็อาจทำให้หุ้นในกลุ่มค้าปลีกกลับมาปรับตัวดีขึ้น
อีกทั้งมีแรงกดดันในหุ้นกลุ่มสื่อสาร ในประเด็นเรื่องการเข้าประมูล 5G ซึ่งนักลงทุนก็อยู่ระหว่างรอดูรายชื่อผู้ยื่นซองประมูลในวันที่ 4 ก.พ. 63 และติดตามการประกาศผลประกอบการในไตรมาส 4/62 ของหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี โดยเฉพาะ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ซึ่งหากออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ก็จะส่งผลกดดันต่อหุ้นปิโตรเคมีอื่นๆ ปรับตัวลงตาม
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,585.66 จุด เพิ่มขึ้น 5.03 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.32% มูลค่าการซื้อขาย 34,473.81 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณกล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,580 จุด และแนวต้าน 1,600 จุด