บล.ไทยพาณิชย์ลดเป้าหุ้นไทยปีนี้เหลือ 1,700-1,750 จุด เหตุถูกกดดันความตึงเครียดสหรัฐฯ-อิหร่าน และภัยแล้ง แนะนำหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี กำไรโตจากเศรษฐกิจฟื้นตัว
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐฯ-อิหร่าน ถือเป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงสูงที่จะกดดันการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งอาจมีความรุนแรงเป็นระยะ แต่ไม่ถึงขั้นเกิดสงคราม ซึ่งมองว่าความตึงเครียดเรื่องนี้จะจบลงได้ต้องมีการเจรจา โดยความตึงเครียดดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น คาดราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 70-75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้หุ้นน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี ได้ประโยชน์
ส่วนอีกปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดหุ้น คือสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งมีความเสี่ยงสูง เพราะภัยแล้งจะรุนแรงกว่าทุกปี กระทบโดยตรงต่อภาคเกษตร ซึ่งมีโอกาสทำให้กำลังซื้อภาคเกษตรหดตัวลง
อย่างไรก็ตาม บล.ไทยพาณิชย์ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนผ่อนคลายลง เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น การปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนจบลงแล้ว โดยให้เป้าหมายหุ้นไทยปี 2563 อยู่ที่ 1,700-1,750 จุด ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ 1,800 จุด กำไรสุทธิต่อหุ้นที่ 101 บาทต่อหุ้น ลดลงจาก 103 บาทต่อหุ้น กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี เป็นผู้นำ โดย EPS กลุ่มพลังงานจะเติบโต 32% กลุ่มปิโตรเคมี โต 90 % จากปี 2562 ที่ลดลง 13% และ 62%
“ตลาดหุ้นปีนี้ยังถูกกดดันจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน ซึ่งน่าจะยืดเยื้อไปถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบต่อความเชื่อมั่น และทำให้นักลงทุนกังวลเป็นระยะ แต่เชื่อว่าแนวรับของดัชนีหุ้นไทยที่ระดับ 1,550 จุด น่าจะรับอยู่” นายสุกิจกล่าว
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้นักลงทุนถือครองหุ้นปลอดภัยเพื่อการลงทุนในระยะยาว และเพิ่มลงทุนในหุ้นวัฏจักรที่มีกำไรและมีแนวโน้มเติบโตที่ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ และธนาคาร แนะนำหุ้น IVL TOP TCAP BBL และ BCH