หุ้นปิดเช้าร่วง 10.86 จุด ตามตลาดภูมิภาค กังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และเผชิญแรงกดดันจากโรคระบาดปอดอักเสบ แนวโน้มภาคบ่ายตลาดยังไม่ค่อยดี จากปัจจัยกดดันที่ยังมีอยู่
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันทั่วหน้า จากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่าน-อิรัก ซึ่งจะต้องรอดูว่าจะมีการตอบโต้ระหว่างกันอย่างไรบ้าง
นอกจากนี้ เผชิญแรงกดดันจากโรคระบาดปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสที่ตอนนี้เริ่มแพร่เข้าไปที่สิงคโปร์แล้ว ซึ่งก็ต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด
สำหรับกลุ่มพลังงานมีหุ้นบางตัวเท่านั้น คือหุ้น PTTEP ที่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากราคาน้ำมันขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง แต่ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นจะเป็นลบมากกว่าบวกเพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดีอยู่แล้ว สำหรับหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มโรงกลั่น อาจได้รับผลลบได้ถ้าราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสูงเพราะเป็นต้นทุน (Cost) ดังนั้นช่วงนี้ก็แนะให้ลดพอร์ตสินทรัพย์เสี่ยงลงในยามที่ความเสี่ยงสูงขึ้น และหันไปถือหุ้น Defensive, หุ้นที่ให้ปันผลดี รวมถึงหุ้นที่มีเสถียรภาพ จะดีกว่า
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,584.11 จุด ลดลง 10.86 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.68% มูลค่าการซื้อขาย 37,623.45 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์กล่าวว่า ตลาดฯ ยังไม่ค่อยดีจากปัจจัยกดดันที่ยังมีอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด และมี Stop loss ที่ 1,575 จุด หากหลุดมีโอกาสที่จะลงไปทดสอบบริเวณ 1,540-1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,585-1,590 จุด