หุ้นไทยปิดร่วงแรง 26.47 จุด ตามตลาดในต่างประเทศ กังวลการตอบโต้สหรัฐ-อิหร่าน พร้อมเผชิญแรงกดดันโรคระบาดใหม่ในจีน แนวโน้มวันพรุ่งนี้ หุ้นยังมีความเสี่ยงอาจจะปรับลงได้ จากความกังวลความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และประเทศอื่นๆ เข้ามาแบ่งฝ่ายกัน พร้อมแนะนำให้ติดตามสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงตามตลาดต่างประเทศ รับปัจจัยกดดันจากความกังวลการตอบโต้ระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านที่เกิดความขัดแย้ง ส่งผลแรงเทขายออกมาอย่างมากในวันนี้ และทำให้ sentiment ของตลาดเสียไป
โดยเฉพาะในช่วงบ่ายหลังจากดัชนีไม่สามารถยืนได้ในระดับ 1,580 จุด ทำให้มีแรงขายออกมามากขึ้น ส่งผลให้ SET ช่วงบ่ายไหลลงไปค่อนข้างมาก แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะมีหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ได้รับประโยชน์จากปัจจัยกดดันในตะวันออกลาง แต่ไม่สามารถทนทานแรงขายของหุ้นกลุ่มอื่นๆ ได้ ขณะเดียวกันหุ้น AOT ยังได้รับแรงกดดันเสริมจากโรคระบาดใหม่ในจีนที่คาดว่าจะกระทบกับการท่องเที่ยวและการเดินทาง
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,568.50 จุด ลดลง 26.47 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.66% มูลค่าการซื้อขาย 71,208.83 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,603.18 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 329.69 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 923.24 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,350.25 ล้านบาท.
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) น.ส.ธีรดา คาดว่า ดัชนีฯยังมีความเสี่ยงอาจจะปรับลงได้ จากความกังวลความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และประเทศอื่นๆ เข้ามาแบ่งฝ่ายกัน พร้อมแนะนำให้ติดตามสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วาระ 2 และ 3 ในสัปดาห์นี้ด้วย พร้อมให้แนวต้าน 1,580 จุด แนวรับ 1,550-1,560 จุด
