YLG คาดตลาดทองปีชวดยังคึกคัก กรอบเคลื่อนไหว 1,380-1,600 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 19,700-23,000 บาท ชี้แม้จีน-สหรัฐฯ ผ่านข้อตกลงการค้าเฟสแรกได้แต่ระยะยาวยังเสี่ยงสูง หนุนราคาทองคำปรับขึ้น
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกปี 2562 ปรับตัวขึ้นถึง 15% ส่วนราคาทองคำในประเทศให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 7.4% สาเหตุที่ราคาทองคำในประเทศขึ้นน้อยกว่าตลาดโลกเนื่องจากเงินบาทปีที่ผ่านมาแข็งค่ามากกดดันราคาทองคำในประเทศ และจากความไม่แน่นอนเรื่องสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ทำให้ราคาทองคำผันผวนขึ้น-ลงแรง นักลงทุนซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพราะเกรงเศรษฐกิจโลกถดถอย นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้หลายรอบในปีที่ผ่านมา โดยบางวันราคาทองเปลี่ยนแปลงถึง 20-30 ดอลลาร์สหรัฐต่ออนซ์ หรือ 200-300 บาท
ส่วนแนวโน้มปี 2563 คาดว่าราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากมีหลายปัจจัยหนุนราคาทองคำ ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่แม้ว่าจะสามารถลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในเร็วๆ นี้ แต่ระยะยาวยังมีความเสี่ยงสูงจากมาตรการการขึ้นภาษี การถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา การดำเนินนโยบายการเงินธนาคารกลางทั่วโลกไปสู่แนวโน้มเชิงผ่อนคลาย กระแสเงินทุนไหลเข้าทองคำจากการที่ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกยังเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในพอร์ตเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และกองทุนทองคำขนาดใหญ่ SPDR และกองทุน ETF ทั่วโลกที่เข้ามาซื้อทองคำถึง 1,000 ตันในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าราคาทองคำปีนี้มีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,380-1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 19,700-23,000 บาทต่อบาททองคำ โดยกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนสามารถทยอยสะสมทองคำที่แนวรับ 1,400-1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทำกำไรบริเวณแนวต้านที่ 1,550-1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์