YLG คาดตลาดทองยังคึกคัก แม้จีน-สหรัฐฯ ผ่านข้อตกลงการค้าเฟสแรก เหตุระยะยาวยังเสี่ยงสูง เผยปี 2563 ราคาทองมีลุ้นแตะ 23,100 บาท
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ล่าสุดจีนและสหรัฐฯ มีการบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ทำให้จีนรอดพ้นจากการถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ในอัตรา 15% ต่อสินค้าจีนวงเงิน 156,000 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวลดลงจากการประกาศดังกล่าวมากนัก ส่วนหนึ่งเพราะตลาดรับรู้ข่าวนี้ไปบ้างแล้ว ประกอบกับสหรัฐฯ ยังเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าจีนวงเงิน 250,000 ล้านดอลลาร์ต่อไป แม้ว่าจะลดภาษีต่อสินค้าจีนวงเงิน 120,000 ล้านดอลลาร์ลงเหลือ 7.5% แต่ภาษีนำเข้าส่วนใหญ่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ สะท้อนข้อตกลงการค้าเฟสแรกไม่ดีมากพอจะทำให้ตลาดมั่นใจต่อสถานการณ์ในอนาคต นักลงทุนบางส่วนจึงยังคงถือครองทองคำที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยง
สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดผลกระทบที่ล้วนแล้วแต่ส่งผลหนุนราคาทองคำในตลาดโลกให้ปรับตัวขึ้นถึง 15% ในปี 2562 ส่วนราคาทองคำในประเทศให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 7.4% เนื่องจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง จนทำให้เกิดความวิตกต่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต ส่งผลกระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินธนาคารกลางทั่วโลกไปสู่แนวโน้มเชิงผ่อนคลาย นอกจากนี้ ยังเป็นที่มาทำให้เกิดกระแสเงินทุนไหลเข้าทองคำ สะท้อนจากการถือครองทองคำจากกองทุน ETF ทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมๆ กับแรงเก็งกำไรของนักลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ส COMEX ไม่เพียงเท่านั้น ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกยังเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำในพอร์ตเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอีกด้วย
ส่วนแนวโน้มราคาทองคำปี 2563 ยังต้องจับตาดูประเด็นเรื่องสงครามการค้าต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าระยะยาวยังไม่มีความชัดเจน แต่หากทั้ง 2 ประเทศหาข้อยุติได้อาจเกิดแรงขายทองคำได้ จึงต้องประเมินสถานการณ์เป็นระยะ อย่างไรก็ตาม คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ซึ่งจะทำให้ตลาดทองคำยังคงได้รับความสนใจ และหากราคาทองสามารถทรงตัวรักษาระดับเหนือ 1,445-1,390 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หรือ 20,600-19,850 บาทต่อบาททองคำ จะยังมีโอกาสที่ราคาจะแตะระดับสูงสุดของปี 2562 บริเวณ 1,557-1,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 22,250-21,900 บาทต่อบาททองคำ และหากทรงตัวระดับนี้ได้จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปต่อที่ระดับ 1,603-1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 22,900-23,100 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของราคาช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2556